มีคนไปตั้งกระทู้ถามในเว็บพันธุ์ทิพย์ว่า "ฝันร้ายทุกคืนทำยังไงดีคะแย่มากเลยตอนนี้" ผมมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มากพอสมควร เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง
ก่อนอื่นดูเนื้อหาของกระทู้กันก่อน
ดังนี้
แต่ก่อนก็ฝันบ้างนานๆ ทีนะคะ
เดี๋ยวนี้ฝันร้ายทุกคืนเลยเน้นว่าทุกคืน
กลายเป็นไม่อยากนอนเลยค่ะ
นอนแล้วก็ฝันพยายามฟังจังหวะดนตรีในยูทูบให้มันเย็นๆ ร่มๆ
ฟังจนหลับเปิดทิ้งไว้แต่ทุกคืนก็ยังฝัน
ฝันว่าคนในบ้านโดนยิงบ้าง
มีคนมาขอให้ทำบุญบ้างตอนฝันเรารู้สึกอึดอัดมากหันไปไหนไม่ได้อาจดูงมงายนะคะแต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
เริ่มจิตตกกับตัวเองแล้วค่ะ ใครเคยเจอเหตุการณ์กับตัวเองแบบนี้บ้างคะลองแนะหน่อย
ยานอนหลับช่วยได้มั้ย ถ้าการที่นอนหลับและไม่ฝันคือมันบ่อยมากทุกคืนๆ
จนฉันไม่กล้าหลับเลยร้องไห้
เราเองก็ทำบุญเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก่อนฝันละลืมค่ะเวลาตื่นมา แต่เดี๋ยวนี้ฝันอะไรตื่นมาก็ยังจำได้ใครมีวิธีช่วยบอกหน่อยนะคะ
|
ไอ้เรื่องการฝันร้ายๆ
นี่ น่าจะเกิดกับทุกคน
แต่อาจจะมีความถี่ไม่เท่ากัน
คนตั้งกระทู้นี้ บอกว่า ฝันร้ายทุกคืน
ก็คงไม่ทุกคืนทุกวันอย่างนั้น คงจะฝันบ่อยๆ
ความคิดเห็นในกระทู้ดังกล่าว
ก็เป็นเรื่องไร้สาระเสียเป็นส่วนใหญ่
ผมจึงไม่นำมาวิพากษ์วิจารณ์ แต่จะเล่าเรื่องของผม และแนวทางแก้ไขไว้ดังนี้
ผมเองก็มีเรื่องฝันร้ายอยู่เป็นประจำตั้งแต่เด็ก
เรื่องที่จำได้แม่นก็เป็นเรื่องถูกผีไล่จับ ที่จำได้แม่นเพราะ ฝันเรื่องนี้บ่อยมาก ในฝันนั้นกลัวมาก ตื่นขึ้นมาก็ใจหายใจคว่ำ
เรื่องของความฝันก็เป็นไปในทำนองนี้
คือผมจะเดินอยู่ในตลาด แล้วผีมันก็มาไล่จับทำนองนั้น ผมกลัวสุดขีด วิ่งหนีผีจนตัวลอยได้
ลอยขึ้นไปบนหลังคาห้องแถวของตลาดบรมธาตุนั่นแหละ
ความฝันนี้
เป็นความฝันที่ผมกลัวที่สุด
แต่ผมก็ฝันถึงมันบ่อยมาก
แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกเดือนอะไรทำนองนั้น
ฝันบ่อย
แต่ก็นานๆ มาครั้ง
แต่เมื่อไหร่ฝันถึงเรื่องนี้ ตื่นขึ้นมา ผมก็ประสาทเสียไปพักหนึ่ง
ความกลัวผีในความฝันของผมนั้น
ทำให้ผมไม่กล้าดูหนังไอ้นิ้วเขมือบ (A Nightmare on Elm Street) ซ้ำเลย
ไม่ว่าจะภาคไหนๆ ผมดูภาคแรกในโรงภาคเดียว
ก็เพราะกลัวไอ้เฟรดดี ครูเกอร์นี่แหละ
ผมเป็นคนบ้าดูหนัง ผมดาวน์โหลดหนังอยู่ในคอมฯ
ของผมนี่ไม่รู้กี่พันเรื่อง หนังดีๆ ผมจะดูซ้ำหลายครั้ง แต่ ไอ้เฟรดดี ครูเกอร์ผมไม่เคยยอมดูซ้ำเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ครั้งแรกที่ตีตั๋วเข้าไปดู
ก็เพราะไม่รู้ว่ามันจะน่ากลัวขนาดนั้น ผมถึงรู้ว่า ผมนี่กลัวฝันร้ายขนาดหนัก
ที่มันน่ากลัวก็เป็นเพราะว่า
"เราควบคุมความฝันไม่ได้" ในฝันมันกลัวอย่างไร เราก็ต้องกลัวไปอย่างนั้น ไม่สามารถบังคับให้ความฝันไปตามที่เราต้องการได้
ถ้าถามว่า
ปัจจุบันผมยังมีฝันน่ากลัวอยู่หรือไม่
คำตอบก็คือ ยังมี
แต่ผมควบคุมมันได้แล้ว และก็ไม่ใช่ความฝันเรื่องที่หนีผีจนบินขึ้นไปบนหลังคา
ผมไม่เคยฝันร้ายเรื่องนั้น
มาตั้งแต่เป็นวิทยากรสอนปฏิบัติธรรม แต่มันเป็นฝันร้ายเรื่องอื่นๆ
ที่น่ากลัวหนักกว่าเข้าไปอีก
เรื่องก็เป็นทำนองนี้
วิทยากรของคุณลุงการุณย์
บุญมานุชนั้น มีกฎกติกามารยาทในการทำวิชาที่สำคัญมากก็คือ
จะต้องทำวิชาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ ตื่นนอนกับก่อนนอน
คำว่า
"ทำวิชา" ก็คือ เดินวิชา 18 กาย ตามคำสอบการเป็นวิทยาจารย์นั่นแหละ
อย่างไรก็ดี
ในการทำงานนั้น บางครั้งผมเหนื่อยสุดๆ จนกระทั่งว่า ขี้เกียจทำวิชาตอนก่อนนอน ดังนั้น
หลายๆ ครั้งผมจึงนอนเลย โดยไม่ยอมทำวิชา
เมื่อไม่ยอมทำวิชาก่อนนอนครั้งใด
ผมจะต้องฝันร้ายอย่างน่ากลัว
น่ากลัวมากกว่าเรื่องหนีผีขึ้นไปบนหลังคาเสียอีก
ฝันร้ายครั้งนี้
มันน่ากลัวมาก จนกระทั่งผมทนไม่ไหวจะต้องลุกขึ้นมาทำวิชาก่อน
ถึงจะนอนได้อีกครั้งหนึ่ง
แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่ว่า ผมไม่สามารถจำเรื่องราวของการฝันร้ายในประเด็นนี้ได้
คือ มันไม่เป็นเรื่องราวที่ซ้ำๆ
แต่มันฝันร้ายไปเรื่อย
ก่อนนอนทุกครั้ง
ที่ไม่ยอมทำวิชา ผมรู้ดีว่า เดี๋ยวจะต้องฝันร้าย ฝันน่ากลัว แต่ความง่วง ความเพลีย ผมก็ตัดสินใจ "นอนไปก่อนวะ" เดี๋ยวค่อยลุกมาทำวิชา
มาถึงแนวทางในการแก้ไขทางวิชาธรรมกาย
ในหลักการของทางศาสนาพุทธ
ยืนยันไว้ว่า "คนสมาธิดี จะไม่ฝัน" ดังนั้น พระอรหันต์
ตลอดจนคนที่ปฏิบัติธรรมได้ดี จึงไม่ฝัน ดังนั้น
คนที่ฝัน ไม่ว่าจะฝันดี ฝันเด่น ฝันร้ายนั้น จะต้องสมาธิไม่ดีนัก
ในทางแก้ไขก็ต้องทำให้เราสมาธิดีให้ได้
ขอแนะนำวิธีแก้ไขที่ดีที่สุด
และสั้นที่สุดเลย ดังนี้
ตามธรรมชาติของการนอนนั้น เมื่อเรานั่ง และนอนลงไป คงจะมีคนจำนวนไม่มาก
ที่พุ่งตัวลงไปนอนกับที่นอน แล้วหลับปุ๋ยไปเลยในทันทีทันใด
เมื่อเรานอนลงไปแล้ว ส่วนใหญ่จะต้องคิดโน่น คิดนี่ไปเรื่อยจนกว่าจะหลับ คนที่นอนไม่หลับก็เพราะ มีเรื่องคิดมาก
จนกระทั่งหลับไม่ลง
ดังนั้น
เมื่อเรานอนลงไปแล้ว
เราก็ลองจินตนาการให้เป็นดวงใส เข้าไปตามฐานของใจ คือ ฐานที่ 1 ปากช่องจมูก
(หญิงซ้าย ชายขวา) ฐานที่ 2 เพลาตา (หญิงซ้าย ชายขวา) ฐานที่ 3 จอมประสาท กลางกะโหลกศีรษะ และฐานที่
7 เหนือระดับ 2 นิ้วมือ
การจินตนาการนั้น
ก็จินตนาการเบาๆ ไม่ต้องนึกให้เห็นใสชัดแจ่ม แบบมองเห็นด้วยตา ให้เรารู้ว่า มันมีดวงใสอยู่ที่ฐานที่ 7
ก็แล้วกัน
เห็นชัด
เห็นไม่ชัด หรือไม่เห็นเลยก็ได้
ขอให้รู้ว่า มันมีดวงใสอยู่ตรงนั้น
นึกไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งหลับไป ถ้าทำอย่างนี้ได้
รับรองไม่ฝันร้ายอย่างแน่นอน แล้วจะทำให้หลับง่ายขึ้นด้วย
เพราะ
จะหลับ จะดับ จะตื่น ใจต้องตกไปตรงนี้ก่อนทุกครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น