บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ปฏิบัติธรรมมาแล้วกลุ้มใจ


มีคนเข้าไปตั้งกระทู้ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ที่น่าสนใจ และควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์กัน กระทู้นั้นชื่อ “ไปปฏิบัติธรรมกลับมาบ้านแล้วกลุ้มใจ

เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้


ช่วงเวลา 1 อาทิตย์ไปปฏิบัติธรรมเจริญสติ มีความสุขมาก ... แต่พอลาพระอาจารย์กลับบ้าน  ท่านมองหน้าแล้วทักว่า ถ้าตกงานก็ให้มาปฏิบัติธรรมนะ

วันแรก ที่เข้าไปกราบพระอาจารย์ ท่านก็ทักว่า ดีแล้วมาปฏิบัติเวลาตกงานจะได้ไม่หวั่นไหว

โดนทัก 2 ครั้ง ใจเริ่มส่าย   ระหว่างนั่งรถกลับบ้านก็เจริญสติมาตลอด   แต่พออยู่บ้านคนเดียวใจครุ่นคิดแต่เรื่องงาน  เพราะ บริษัททำงานธุรกิจง่อนแง่นมาตลอด เหมือนจะปิดหรือไม่ปิดตัว

อายุก็เยอะแล้วด้วย หางานใหม่ค่อนข้างยาก  แล้วก็ขาดความมั่นใจว่าจะหางานใหม่ได้ไหม

รู้สึกไม่สบายใจ ยิ่งเห็นหน้าแม่ด้วยแล้ว รู้สึกแย่  เพราะเราเป็นเสาหลักของครอบครัว

ขอพื้นที่ pantip ระบาย ความเครียดนิดนึง  แล้วจะกลับไปพยายามเจริญสติต่อให้ได้อย่างต่อเนื่อง

การเจริญสติ เราจะก้าวข้ามอุปสรรคทุกอย่างได้ใช่ไหมคะ


การฝึกสติที่ว่านี่ ไม่ต้องคิดเป็นอื่น ถึงจะมีหลายพวก หลายกลุ่ม แต่ก็ต้องเป็นสาวกของพระพม่าแน่ๆ  

ผมก็ไม่รู้ว่า พระห่าๆ  รูปนั้น คิดอย่างไร ถึงได้ทักผู้เข้าปฏิบัติธรรมแบบนั้น  น่าจะเป็นพระซาดิสม์  มันมีเรื่องที่จะพูด จะคุยกันอย่างมาก

แล้วเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจกว่านี้ มันไม่มีแล้วหรือไง ถึงได้ไปทักว่า “เขาจะตกงาน”

คนตั้งกระทู้ก็ควายตัวจริงเสียงจริงเหมือนกัน  คือ ตั้งใจว่าจะไปอีก  พระห่าๆ แบบนี้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่ไปหาอีกแล้ว

ที่เขียนไปข้างบนนั่นยังไม่ใช่ประเด็นหลัก 

ประเด็นหลักก็คือ  การฝึกสติตามพระพม่านั้น ไม่ได้ช่วยอะไรผู้ฝึกเลย เพราะ ไม่ได้อะไรกลับมาบ้าน ได้แต่ความหลอกลวงของพระพม่า

ในการฝึกวิชาธรรมกายนั้น  ถึงแม้คนฝึกจะไม่เห็นดวงธรรม ไม่เห็นกายธรรม แต่ผมยืนยันผู้เข้าฝึกทุกคนว่า “ชีวิตจะไม่ตกต่ำไปกว่านี้ ชีวิตมีแต่จะดีขึ้น” 

นอกจากนั้นแล้ว ในการฝึกแต่ละครั้ง จะมีผู้เห็นดวงธรรม เห็นกายธรรม  ผู้เข้าอบรมจะพูดคุยซักถามกันได้  คนที่ไม่เห็น ก็รู้ว่า ดวงธรรม กายธรรมมีจริง แต่ตนเองยังไม่เห็นเท่านั้น

ประการสำคัญที่สุด เมื่อเข้าฝึกวิชาธรรมกายกับกลุ่มของผมก็คือ ผู้เข้าฝึกจะได้รับความรู้ที่ถูกต้อง ได้รับตำราที่แจกอย่างครบถ้วน

คนที่เข้าฝึกจึงกลับบ้าน อย่างสบายใจ อย่างมีความหวัง  ไม่ใช่หมดหวังอย่างผู้ตั้งกระทู้

ต่อไป มาดูความสมองหมา ปัญญาควายของสาวกพระพม่าที่มาให้ความคิดเห็นกันซักหน่อย


การเจริญสติ ไม่ได้ช่วยให้ก้าวข้ามอุปสรรคทุกอย่างที่เข้าใจหรอกนะครับ แต่การเจริญสติคือการทำอะไรก็ตามให้รู้ตัวอยู่เสมอๆ

การที่คุณฟุ้งซ่าน หมายความว่า ภายใตจิตสำนึกของคุณกำลังติดภะวังอะไรสักอย่างหนึ่ง ซึ่งมันจะสามารถหายไปได้เองถ้าคุณใช้สติค้นหามันให้เจอ

ที่สำคัญคุณจงชื่อในสิ่งที่คุณทำ อย่าหวั่นไหวไปกับคำพูดคนรอบข้าง ให้คุณคิดไว้เสมอๆ ว่า คนใดไม่ถูกนินทานั้นไม่มีในโลก


ผมไม่รู้คุณคนนี้ ก็อ่านภาษาไทยแตกหรือเปล่า  ไม่เห็นมันจะตอบคำถามของเจ้าของกระทู้เลย

คนต่อไป ใช้ชื่อว่า “ฝากฝัน (Bird FC)” เข้ามาให้ความคิดเห็น ดังนี้


อยากบอกว่า ท่านอาจารย์ท่านพูดแบบนั้นคือ ท่านให้กำลังใจคุณอยู่นะคะ

ถ้าเป็นเรา เราจะดีใจมากเลยที่ครูอาจารย์ท่านให้กำลังใจแบบนั้น ประมาณว่า ถ้าตกงาน หมดที่พึ่งให้มาหาท่านนะ อย่าคิดมาก อย่าคิดสั้น ให้คิดถึงท่าน แล้วมาปฏิบัติธรรมกับท่าน

เราแปลความหมายได้อย่างนี้ค่ะ


คุณฝากฝัน (Bird FC) นี่ก็มันสมองหมา ปัญญาควายอีกตัวหนึ่ง  พระพม่าพูดห่าอะไรดีไปหมด 

ประเด็นนี้ พระไม่ว่าชาติใด ก็ไม่ควรพูด เพราะ คนฟังมันใจเสีย  ไปทักเขาอย่างนั้น  ประเด็นนี้ ถ้าเขาตกงานแล้ว ค่อยพูดให้กำลังใจก็ได้ 

ไม่ใช่ไป “ปากหมา” ทักไปอย่างนั้น

คุณฝากฝัน (Bird FC) ยังมีความคิดเห็นต่ออีก ดังนี้


สถานการณ์ของคุณ จขกท. ตอนนี้ เป็นเหมือนเราเลย คือบริษัทค่อนข้างร่อแร่ ของเรานี่ค้างเงินเดือนมาเกือบ 2 เดือนแล้วค่ะตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (ยังเคลียร์ไม่หมด)

ตอนแรกเราเครียดมาก นั่งสมาธิแทบไม่ได้เลย เพราะคิดมากว่าตกงานแล้ว พ่อแม่จะอยู่อย่างไรแล้วเราจะหางานใหม่ได้หรือไม่ คิดมากสารพัดค่ะ 

แต่ของเรามีข้อดีอยู่คือ เราวิปัสสนา เรื่องขันธ์ 5 ความไม่เที่ยง ความเกิด ความดับ ความไม่ใช่ตัวตนเราเขา บังคับไม่ได้อยู่ทุกวัน

สติมันก็อบรมจิตว่า "เธอจะคิดมากไปทำไม อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ตกงานก็คือตกงาน

เลี่ยงไม่ได้ ตกงานก็หางานทำใหม่สิ งานอะไรก็ทำไป อย่าเลือกงาน แต่ตอนนี้เธอยังมีงานทำยังไม่ตกงาน ก็ให้ทำงานนั้นให้ดีที่สุดก่อน แล้วอย่าคิดอะไรมาก กับสมบัติโลก ๆ ตายไปก็เอาไปด้วยไม่ได้ หากเธอตายตอนนี้ มิได้กลับมาเกิดอีกเรอะ"

มันอบรมจิตแบบนี้ทุกวัน ตอนนี้เราเลยปล่อยวาง (เกือบจะหมด) แล้วสำหรับเรื่องงาน ทำใจให้สบายดีกว่า คือทุกข์ไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรมันดีขึ้น เราจะกอดกองทุกข์ไปทำไมคะ เผารนจิตใจเปล่า ๆ

คิดไว้อย่างเดียวค่ะ "อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป"


ผมอ่านแล้ว ก็ไม่เห็นความคิดของ คุณฝากฝัน (Bird FC) มันจะมาจากคำสอนของพระพม่าอย่างไร  ความคิดอย่างที่ว่า มันก็คือง่าย “เรื่องยังไม่เกิด ก็อย่าเพิ่งไปเดือดร้อน”  ก็แค่นั้น

ผมถึงว่า พวกสาวกพระพม่าที่สมองหมา ปัญญาควายเป็นส่วนใหญ่  เชื่อโดยไม่มีสติ ไม่มีเหตุผลสนับสนุนใดๆ

แล้วก็หลอกตัวเองอยู่ทุกวันว่า กำลังฝึกสติ


-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น