บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

เทวดาประจำตัวของคน


รู้สึกว่าในช่วงนี้ มีคนสนใจเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวของคนกันมาก มีกระทู้ถามในพันธุ์ทิพย์อย่างน้อย 2 กระทู้ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ “เรื่องเทวดาประจำตัวเป็นยังไงหรือครับ” กับ “เทพประจำตัวของเราคือใครหรือคะ

คนที่เข้าไปตอบกระทู้ก็ตามแนวของห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์คือ “ไม่รู้เรื่อง” กันทั้งหมด ที่ตอบๆ มาก็เดากันไปทั้งนั้น

มาดูกระทู้ “เทพประจำตัวของเราคือใครหรือคะ” กันเป็นประเด็นหลัก เพราะ มีเนื้อหากระทู้ที่น่าสนใจ ดังนี้

คืออยากรู้ มากๆ ว่าเทพประจำตัวเราคือใคร จขกท. เกิด วันเสาร์ที่  14  เมษายน  2533 ปีมะเมีย  รบกวนด้วยนะคะ

คนตั้งกระทู้นี่คงคิดว่า เทพประจำตัวคงมีตามวันเดือนปีเกิด

เรามาวิพากษ์วิจารณ์ความคิดเห็นของคนที่เข้าไปแสดงความคิดกันก่อน

เทวดาประจำตัวไม่มีหรอกครับ แต่เทวดาที่อยากช่วยเหลือเราเสมอๆ นะมี เช่น เคยเป็นญาติพี่น้องพ่อแม่กันมาก่อน

หรือเรามีศีลไหว้พระสวดมนต์เทวดาก็อยากช่วยเหลือ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ช่วยได้ไม่เกินขอบเขตของกฎแห่งกรรม  และถ้าไม่เคารพนับถือกันเขาก็ไม่ช่วย

ความคิดเห็นนี้ คนเขียนก็เขียนไปตามความเชื่อส่วนตัว ไม่มีหลักฐานหรือหลักวิชารองรับ  เขียนไปเรื่อย

เท่าที่เคยสอบถามผู้รู้ เค้าตอบว่า มี ประจำตัวคนละหนึ่งองค์ แต่จะมีมากกว่านั้นก็ได้ แต่จะไปๆมาๆ คือว่างท่านก็มา ไม่ว่างท่านก็ไป

ผมสงสัยจังว่า ผู้รู้ของท่านผู้นี้เป็นใคร  มันทำไมถึงได้มั่วขนาดนั้น ผู้รู้ที่ว่า คงไปได้รับคำตอบแบบนี้ มาจากพวกมั่วอีกคนหนึ่ง ก็จำมาได้แค่นั้น

ต่อไปเป็นความคิดเห็นที่ยาวมาก และมีคนชอบมากเสียด้วย  ท่านเขียนมาดังนี้

เคยเจอเอง เลยยอมรับว่ามีจริงๆ

ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนเราเกิดมามีเทวดาประจำตัว  ซึ่งมีทั้งแบบที่อยู่ในใจคนเรา และอยู่นอกใจ มีทั้งอยู่ประจำ และไปๆ มาๆ (ประมาณว่ามีอะไรเรียกได้)

ไม่ได้ศึกษาเยอะ แค่รับรู้การมีอยู่ เวลาทำความดีก็นึกถึงพวกท่านให้อนุโมทนา เวลาคับขัน ก็มีการขอร้องไหว้วานกันบ้างอะไรบ้าง อ้อนบ้าง เกื้อกูลกันไป

ตอนรับรู้การมีอยู่ของเทวดาประจำตัว (จริงๆ ควรเรียกว่า เทวดารักษาตัว หรือเทวดาผู้คุ้มครอง) รู้สึกว่าพวกท่านจะดีใจกันมาก ประมาณว่าช่วยมาตั้งนานแล้ว อีนี่ไม่รู้เสียที พอรู้ได้ ท่านก็ดีใจกันใหญ่ โมทนากันใหญ่

เท่าที่เจอ ประมาณว่าพวกท่านจะลุ้นมาก ให้เราทำความดี ทำความเพียร เวลาได้ธรรมก็จะดีใจกันมาก มีการบอกต่อกัน

แล้วก็มีความพยายามที่จะช่วยเหลือ ชี้แนะ บอกใบ้ ส่งซิก เข้าฝัน ไปจนถึงคอยเตือน คอยดึงเวลาจะผิดทาง

รู้มาว่า พวกท่านทำงานกันเป็นทีมเลย ในการจะช่วยให้คนๆ นึง ได้ปฏิบัติจนบรรลุธรรมแต่ละขั้นแต่ละตอน

ไม่ใช่ว่าเราเกิดมาเก่งเองเลย  หลายๆ อย่างที่เคยคิดว่าตัวเองรู้ได้เอง หาได้เอง

ตอนหลังมารู้ว่า จริงๆ แล้ว เป็นผลงานของทีมเทวดานี่แหละ เขาลุ้นกันตัวโก่ง ช่วยกันอย่างน่ารัก (ไอ้เราก็ไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย)

เท่าที่รู้อีก เทวดารักษาตัว ส่วนใหญ่ท่านก็เคยเป็นญาติ เป็นมิตร เป็นผู้ที่คอยเกื้อกูลกันมาในอดีต เคยเป็นเพื่อนซี้กันก็มี

เรามาเกิดเป็นคน ท่านก็เกิดเป็นเทวดา ก็มาเยี่ยมเยียน ช่วยเหลือดูแลกัน ตามอัตภาพ

ก็เลยอนุมานว่า ถ้าเราเกิดเป็นหมา แล้วท่านเป็นเทวดา ก็ยังดูแลรักษากันอยู่ได้นะ บางกรณีน่ะนะ

โลกนี้มันมีอย่างน้อย 4 มิติ ดังนั้น เทวดาก็เป็นอีกหนึ่งระบบชีวิต ที่เกื้อกูล อยู่ร่วมสังสารวัฏกัน อยู่กันเหมือนญาติ เหมือนครู เหมือนเพื่อน

ก็เช่นเดียวกันและ ภูมิที่ต่ำกว่า ก็อยู่ด้วยกันแบบนี้เหมือนกัน

ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไง เทวดาก็ทำหน้าที่เทวดา ผีก็ทำหน้าที่ผี มารก็ทำหน้าที่มาร เป็นไปตามวิบากกรรมกำหนดหน้าที่ หรือความต้องการ

เทวดาเขารักษาความดี รักษาคนดี เกื้อกูลมนุษย์ในด้านความดี แล้วก็ส่วนใหญ่ก็รักษาพระศาสนา 

แต่ในกรณีของเราน่ะ บางทีเทวดาก็พาวุ่นได้เหมือนกัน 555  ถ้าไม่ฟังหูไว้หู

ถ้าเราใจไม่หนักแน่นพอก็ทำเสียเรื่องได้ (ไม่ต่างจากภพภูมิอื่นซึ่งสามารถมีอิทธิพลทางความคิดจิตใจและอารมณ์ของคนเราได้ แต่ของเทวดาก็เป็นอารมณ์คนดีอ่ะนะ คนดีที่ยังมีกิเลสไง)

เทวดานอกตัวที่ช่วยดูแลเรา เคยถามเขา เขาว่ามี 4 องค์ มีชื่อขึ้นต้นเหมือนกันหมด มีอยู่ประจำองค์นึง

องค์อื่นๆ ก็เวียนกันมาดูตามเหตุ ไม่ได้อยู่ตลอด แต่เรียกได้นะ  ก็แปลกดี

อันนี้ก็ได้รู้มานานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปหรือเปล่านะตอนนี้ หลังจากคุยกันครั้งนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย

ส่วนเทวดาในใจที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่วันที่รับรู้ว่ามี ก็ได้อัญเชิญกลับบ้านไปแล้ว

เพราะจิตดวงนี้ไม่ต้องการการชี้นำแบบนั้นอีกแล้ว (แบบอารมณ์ "แนนนี่" เลยอ่ะ เหลือเชื่อกิงๆ)
ประมาณว่าอีหนูพึ่งตัวเองได้แระ ขอบคุณและโมทนาที่มาดูแลอย่างใกล้ชิด แฮ่..

จริงๆ มันก็ไม่ได้พิเศษอะไรมาก คือวัตถุสิ่งของ ต้นไม้ ก็มีเทวดารักษาน่ะ บางต้นมีหลายองค์เลย
ก้อนหิน แร่ธาตุ รูปภาพ  ที่ใดมีสสาร ที่นั่นก็ย่อมมีพลังงาน

เทวดาที่คุยบ่อยสุดคือแม่ย่านางรถนี่ล่ะ เพราะต้องทำงานด้วยกัน เดินทางด้วยกัน ต้องปลอบใจกันไปมาเวลาโดนจัดหนัก 555

เรื่องแม่ย่านางรถอีก เคยสงสัยถามหลวงพ่อองค์นึง ท่านก็พยายามอธิบาย แต่เกินปัญญาเราจริงๆ เข้าใจไม่ได้หมด

สรุปว่า เกิดรถมา มีเทวดามาเลย แล้วรถพังเทวดาก็สูญไปด้วย (เราอยากให้ท่านย้ายมาอยู่รถคนใหม่ ก็ไม่ได้อ่ะ)

เรื่องนี้ถ้าจะทำความเข้าใจด้วยสมองมันประมาณควันตัมฟิสิกส์เลย คือใช้ตรรกะเทียบเคียงได้ไม่หมด

คิดเอาไม่ได้ตลอดว่างั้น  อาจารย์องค์นั้นก็บอก อาตมาก็ไม่รู้จะอธิบายโยมยังไง แต่คือมันเป็นอย่างนี้ อย่างนี้..

เลยว่าเลิกสงสัยดีกว่า เอาเป็นว่ามีจริงก็แล้วกัน โบราณเขาว่าไว้ เขาสอนอะไรมา ไม่ผิดหรอก

โดยสรุป พวกที่มาให้ความเห็นนั้น ไม่มีใครรู้จริงแม้แต่คนเดียว บางคนก็เดาเอา  บางคนก็เล่าประสบการณ์ตามความเชื่อของตน  บางคนก็ฟังเขาเล่ามา

ในทางวิชาธรรมกายนั้น ต้องแบ่งให้ออกระหว่าง “เทวดา” กับ “จักรพรรดิ”  ที่เขาถามว่า “เทวดาประจำตัว” หรือ “เทพประจำตัว” นั้นคือ “จักรพรรดิ” 

เทวดา, รูปพรหม และอรูปพรหมนั้น ส่วนใหญ่ช่วยเราไม่ได้เลย  มีแต่จะอนุโมทนาเมื่อเราทำสร้างบุญกุศล  เพราะ ท่านก็จะได้บุญบารมีไปด้วย

ที่เราคุ้นเคยกับเทวดาเพราะ เทวดาชั้นหนึ่ง บางส่วนอยู่ในโลกมนุษย์ 

คนที่ปฏิบัติธรรม หรือคนมีวิชาความรู้บางอย่าง จึงพบเห็นเทวดากันได้บ่อย  ส่วนรูปพรหม กับอรูปพรหมท่านอยู่สูงเกินไป มนุษย์จึงไม่ค่อยพบเห็น

สำหรับจักรพรรดิที่มาเกี่ยวพันกับมนุษย์บ่อยๆ ก็มี 2 ประจำ คือ จักรพรรดิคู่บารมี  กับจักรพรรดิทั่วไป ที่กำลังสร้างบารมีอยู่ 

จักรพรรดิประเภทหลังนี้ มีนับไม่ถ้วน มากมายเหลือคณานับ

เอาจักรพรรดิคู่บารมีก่อน  คนที่สร้างบารมีมามากแล้ว จะมีจักรพรรดิคู่บารมี  คนธรรมดาทั่วไปไม่มี

จักรพรรดิคู่บารมีนี่แหละ พยายามชักนำ บังคับ ฯลฯ ให้เราทำความดีให้ได้ เพราะ ท่านจะได้บารมีไปด้วย 

เมื่อไหร่เราทำความเลว เลิกสร้างบารมี ท่านก็ถอยกลับไปยังที่อยู่ของท่านก่อน ด้วยความเสียใจด้วย  เมื่อเราสร้างความดีอีก ท่านก็ลงมาร่วมสร้างบารมีกันอีก

สำหรับจักรพรรดิทั่วไปนั้น  ส่วนใหญ่แล้ว ท่านต้องการสร้างบารมีเพิ่มเติม แต่ไม่มีกายมนุษย์ท่านก็สร้างบารมีไม่ได้ 

ดังนั้น ท่านจึงมองหาคนที่กำลังสร้างบารมีเพื่อมาร่วมสร้างบารมีด้วย

ผมเองนั้น วิทยากรบางท่านเรียกผมว่า “จ้าวจักรพรรดิ” เพราะ ผมมีจักรพรรดิมาก ผมทำอะไรจักรพรรดิก็ต้องมาร่วมสร้างบารมีเสมอ

เวลาผมไปสอนวิชาธรรมกาย จักรพรรดิที่มาช่วยสอนมีเป็นจำนวนมาก ที่เห็นๆ ก็คือ พระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช หลวงพ่อโสธร จักรพรรดิย่าโม (จักรพรรดิเป็นเพศชาย) เป็นต้น

ที่เอ่ยชื่อไปนั้น ไม่ได้รวมถึงจักรพรรดิคู่บารมี และจักรพรรดิที่มาอยู่กับผมแล้ว รวมถึงจักรพรรดิจากนิพพานที่มาอยู่ด้วย

โดยสรุป เทวดาประจำตัว เทพประจำตัวไม่มี  มีแต่จักรพรรดิประจำตัว คือ จักรพรรดิคู่บารมี และจักพรรดิที่มาร่วมสร้างบารมี

จักรพรรดิประจำตัวนั้น ไม่ได้มีทุกคน จะมีเฉพาะผู้ที่มีบารมีสูงเท่านั้น

คนที่ไม่มีจักรพรรดิประจำตัว ถ้าอยากมีก็เริ่มปฏิบัติธรรม  ถ้าใครปฏิบัติธรรมจักรพรรดิก็จะมาอยู่ด้วย


-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989




5 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 ธันวาคม 2557 เวลา 19:13

    ท่านทราบหรือไม่ครับ ว่า pantip.com นั้นแปลเป็นไทยว่า (หนึ่ง)พันทิป (มาจาก 1000 tip - ขออนุญาติ ไม่เติม S เพื่อให้ตรงกับชื่อเว็บขอรับ กระผมก็เพิ่งทราบเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง บอกไว้เป็นวิทยาทานขอรับ)

    ตอบลบ
  2. บอกให้รู้เป็นวิทยาทานเหมือนกัน "อนุญาติ" ต้องเขียนเป็น ."อนุญาต" คือ ไม่ต้องมีสระอิที่ต เต่า

    อันนี้ ผมรู้มานานแล้ว บอกไว้เป็นวิทยาทานเหมือนกัน

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ8 มกราคม 2558 เวลา 02:17

    5555 ขออนุญาติขำครับดอกเตอร์

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ29 เมษายน 2558 เวลา 21:35

    อ่านบล็อค ดร. แล้วความเป็นคนสมองหมาปัญญาควาย จะน้อยลง

    ตอบลบ
  5. 5555 ขออนุญาตขำดอกเตอร์ครับ

    ตอบลบ