พระเจ้ามีไหม ในวิชาธรรมกาย

 คุณ sdasd sdadsadsa ถามมา ดังนี้

สวัสดีครับ อาจารย์ ผมเคยอ่านเรื่องวิทยาศาสตร์กับวิชาธรรมกายที่อาจารย์เคยเขียน เรื่องขอถามเรื่องการสร้างจักรวาลหน่อยน่ะครับ วิชาธรรมกายมีเรื่องของพระเจ้าไหมครับ

พระเจ้ามีจริงไหม ถ้ามีจักรวาลถูกสร้างโดยพระเจ้าหรือไม่ ถ้าไม่มันเกิดขึ้นอย่างไร และเกี่ยวอะไรกับ ธาตุธรรม 3 ฝ่าย หรือไม่

สสารมืดเป็นธาตุธรรมดำหรือไม่ ขอความกรุณาด้วยน่ะครับ

http://www.youtube.com/watch?v=vJoZ55y3O_0 นี้เป็นวีดิโอเรื่องพระเจ้ากับการสร้างจักรวาล

คำตอบแรกออกจะกวนๆ หน่อยๆ คือ “พระเจ้า” มีจริงแน่ๆ เพราะ คำว่า “พระเจ้า” เป็นคำนามในภาษาไทย

ในเมื่อมีการกำหนดคำออกมาแล้ว  “สิ่ง” ที่ก่อให้เกิด “คำ” นั้นก็ต้องมี ถ้าไม่มีแล้ว จะมีคำในภาษาเกิดมาได้อย่างไร

ปัญหาก็คือ “พระเจ้า” เป็นอะไร

ขอยกตัวอย่างคำว่า “พระเจ้า” เป็นภาษาไทย จากกาพย์พระไชยสุริยาของสุนทรภู่

ไม่จำคำพระเจ้า	เหไปเข้าภาษาไสย
ถือดีมีข้าไท	ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขื่อคา

คำว่า พระเจ้านี้ หมายถึงพระพุทธเจ้าทั้งหมดทุกพระองค์ที่เคยมีมา พอศาสนาคริตส์เข้ามา เราก็ใช้คำนี้ แปลคำว่า “GOD” 

ตั้งแต่นั้นมา พวกนักปริยัติก็ไม่อยากใช้คำนี้กัน หลายคนจึงคิดว่า คำนี้คิดขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นคำแปลของคำว่า “GOD” 

คำตอบที่สอง ทำไมนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มคิดว่ามีผู้สร้างจักรวาล

ในวิดิโอนั้น นักวิทยาศาสตร์กล่าวถึงแรงทั้ง 4 ของโลกคือ 1) แรงดึงดูด [แรงโน้มถ่วง] 2) แรงแม่เหล็กไฟฟ้า 3) แรงนิวเคลียร์ชนิดอ่อน 4) แรงนิวเคลียร์ชนิดเข้ม

นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ถ้าแรงทั้ง 4 ทำงานผิดเพี้ยนไป หรือทำงานไม่ประสานกัน คนก็จะเกิดมาไม่ได้ 

อธิบายเฉพาะแรงนิวเคลียร์ชนิดอ่อน ในอะตอมของโลกเรา ก่อนหน้าจะพบแรงนี้ นักวิทยาศาสตร์สงสัยว่า ทำไมอิเล็กตรอนมันถึงไม่วิ่งวนไปหานิวเคลียสแล้วอะตอมก็จะถูกทำลาย ซึ่งผลก็คือ ไม่มีโลก ไม่มีอะไรเลย

ปรากฏว่า มีแรงนิวเคลียร์ชนิดอ่อนอยู่ จึงทำให้อิเล็กตรอนวิ่งอยู่รอบๆ นิวเคลียสต่อไป และโลก จักรวาลก็คงอยู่ต่อมา

ในความเป็นจริงแล้ว  ไม่ใช่เฉพาะแรงทั้ง 4 ทำงานอย่างประสานกันเท่านั้น  เอาโลกของเราเป็นตัวอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ ในกาแล็กซี่นี้ ถ้าอยู่ผิดทิศทางไปแม้แต่องศาเดียว โลกก็อยู่ไม่ได้ คนก็มีไม่ได้

เช่น วงโคจรของดวงจันทร์ไม่ใช่อย่างนี้ โลกก็มีไม่ได้  ดาวพฤหัสฯ ถ้าไม่อยู่ตรงไหนโลกก็ไม่มีไม่ได้

โอกาสอย่างนี้ มันยากเกินไปที่จะเกิดโดยบังเอิญ และนักวิทยาศาสตร์เขาก็ไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มจึงคิดว่า จักรวาลของเรานี้ น่าจะมีผู้สร้าง

แต่ผู้สร้างจักรวาลไม่ใช่ “พ่อพระเยซู”

ที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวอย่างนั้นก็เพราะว่า พระในศาสนาคริสต์ทำลายนักวิทยาศาสตร์ในยุคแรกๆ ไปเยอะ  เผาทิ้งกลางตลาดก็ทำมาแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นๆ

นักวิทยาศาสตร์ที่ถูกเผากลางตลาดนั้น ก็เป็นพระด้วย

ที่นี้ถ้าถามว่า นักวิทยาศาสตร์จะสามารถค้นพบ “พระเจ้า” ไหม  ผมขอฟันธงเลยว่า “ไม่มีทาง” เพราะ นักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีการที่ผิด

ขอให้ดูการทดลองในวิดิโอที่ลิงก์ไป กับวิดิโอที่ผมให้ดูข้างบน เปรียบเทียบกัน  ก็จึงมาถึงการตอบปัญหาข้อที่ 3

คำตอบที่สาม ในวิชาธรรมกายมีพระเจ้าหรือไม่

คำตอบก็คือ “มี”  พระเจ้าในวิชาธรรมกายก็คือ “จักรพรรดิ” ที่เด็กๆ กำลังฝึกดูกันอยู่

อธิบายหลักการของวิชาธรรมกายดังนี้

จักรพรรดินั้นมีนับไม่ถ้วน  มากมายมหาศาลไม่ต้องจินตนาการ  ในการนำวิชาธรรมกายมาเผยแพร่ในโลกมนุษย์นั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ยุคคือ ยุคของจักรพรรดิกับยุคของพระพุทธเจ้า

ตอนนี้เป็นยุคของพระพุทธเจ้า  แต่จักรพรรดิก็ต้องทำหน้าที่ดูแลพระพุทธเจ้าและศาสนา  จักรพรรดิก็คือ พระทรงเครื่องนั่นแหละ

ตอนนี้ถ้าใครทำความดี พระพุทธเจ้าจะคำนวณบารมีให้ ทำให้บุญกับคนนั้น แต่ที่ทำหน้าที่ดูแลศาสนาอยู่ในโลกนี้ เป็นจักรพรรดิทั้งสิ้น

เมื่อถึงคราวโลกนี้แตกไปแล้ว  จักรพรรดิก็จะสร้างโลก สร้างจักรวาลใหม่ ผังเหมือนเดิมเป๊ะเลย มนุษย์ต้องมาสร้างบารมีกันใหม่

เรื่องธาตุธรรม 3 ฝ่าย

ภาคขาว ภาคดำ ภาคเป็นกลางนั้น เป็นจักรพรรดิทั้งหมด ภาคขาวต้องการให้คนทำความดี ภาคคำต้องการให้คนทำความชั่ว ภาคเป็นกลางนั้น ต้องการให้คนอยู่เฉย ความดีก็ไม่ทำ ความชั่วก็ไม่ทำ

คิดๆ ดูก็คล้ายกับอะตอม  อิเล็กตรอนมีประจุลบ โปรตอนมีประจุบวก นิวตรอนเป็นกลาง

เรื่องสสารมืด

สสารมือเป็นองค์ประกอบหนึ่งของจักรวาลไม่เกี่ยวกับการทำดี ทำชั่ว คือ ถ้าไม่มีสสารมืดจักรวาลก็อยู่เป็นอย่างนี้ไม่ได้  กาแลกซี่ต่างๆ ก็ต้องหลุดออกจากจักรวาลไป ทำนองนั้น

ไม่เข้าใจก็ถามมาใหม่ ...

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

โทรศัพท์ : 083-4616989