บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

คนไม่มีศาสนา ตายแล้วไปไหน

มีคนนับถือศาสนาคริตส์แต่มีเพื่อนเป็นพุทธ เข้าไปตั้งกระทู้ในห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์ ชื่อ “คนไม่มีศาสนาตายไปจะไปไหน”  เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้

ตามหัวข้อเลยค่ะ คือส่วนตัวไม่ได้สงสัยไรมากหรอกค่ะ  แต่เพื่อนสงสัยมาก ฮา คือเพื่อนเป็นพุทธ เราเป็นคริสต์

ก็มานั่งคุยกันว่า ถ้าเป็นพุทธ ทำไม่ดีก็ต้องตกนรก เป็นคริสต์ก็ต้องลงไฟชำระ แล้วคนที่ไม่มีศาสนาเนี่ย นรกของเขาเป็นแบบไหนกันนะ

ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่นะคะ อยากได้ความเห็นของคนอื่นๆ ด้วย

มาวิพากษ์วิจารณ์ความเห็นของผู้ที่มาให้ความคิดเห็นกันก่อน ดังนี้

คุณเสียโสดให้หญิงร้าย [สงสัยเมา แล้วหน้ามืดไปข่มขืนผู้หญิง จึงถูกบังคับแต่งงาน] ให้ความคิดเห็นเป็นความคิดเห็นแรกเลย ดังนี้

คนไม่มีศาสนา เค้าไม่ได้มากังวลอะไรกับชีวิตหลังความตายหรอกนะ ตายก็คือ shut down จบแค่นั้น

แถมยังตั้งข้อสงสัยอีกว่า ในเมื่อจุดหมายปลายทางของศาสนิกแต่ละศาสนามันต่างกัน ใครกันแน่ที่คือของจริง หรือว่าโดนหลอกกันมาตั้งแต่กาลเก่าก่อนกันแน่

อ้อ ไม่ต้องสงสัยด้วยนะว่า จะจัดงานศพยังไง คนตายไปแล้วไม่สนใจ คนยังอยู่จะเอาไปทำอะไรก็ทำไป

คุณเสียโสดให้หญิงร้ายนี่ แกคิดคล้ายๆ คนทั่วไป คือ ถ้าเป็นพุทธก็ไปสวรรค์นรกของพุทธ  ถ้าเป็นคริสต์ก็ไปนรกสวรรค์ของคริสต์ทำนองนั้น

ในเมื่อไปนับถือศาสนาใดๆ ก็ไม่ต้องไปไหน ตายแล้วก็หมดเรื่องหมดราวกันไป

คุณโกวิทย์ ให้ความคิดเห็นไว้ดังนี้

พุทธศาสนา...ตายไปแล้ว...ไปตามวิบากกรรมที่ทำมาครับ...ไม่ใช่..ทำไม่ดีก็ต้องตกนรก เพราะ..วิบากกรรม..นั้นรวมในทุกชาติครับ

สังเคราะห์ตามเหตุปัจจัย...ชาตินี้ทำไม่ดีใช่ว่าจะตกนรกเสมอไป.. เพราะชาติอื่นๆ ที่ทำดีอาจจะส่งผลก่อนก็ได้ครับ

คุณโกวิทย์นี่ มันสมองแก คงน้อยกว่าปกติ  และอยากจะแสดงอีโก้แบบผิดๆ คือ อยากจะมาพิมพ์โชว์ในห้องศาสนา แล้วก็ไปภูมิใจบ้าๆ บอๆ ตามประสาคนโง่

คนถามเขาถามว่า “คนที่ไม่มีศาสนาตายแล้วไปไหน”  โกวิทย์ตอบเฉพาะพุทธแบบอยากอวดรู้แบบโง่ๆ 

คุณโกวิทย์นี่ ก็น่าจะอยู่ห้องศาสนาเกิน 5 ปี ถึงเข้าข่ายสมองหมา ปัญญาควายตามการสังเกตของผม

ที่โกวิทย์ตอบมานั้น มันก็เกือบถูก คือ กรรมไม่ว่าจะเป็นกรรมดี กรรมชั่วนั้น รวมทุกชาติมาเลย  แต่กรรมเก่า หรือบุญเก่านั้น  ส่วนใหญ่ก็ชดใช้กันไปแล้วในชาตินี้ 

ดังนั้น  ชาติปัจจุบันถ้าทำชั่วมาก ก็ไปนรกแหละ ถ้าทำความดีมาก ก็ไปสวรรค์  โกวิทย์อยากจะโชว์ว่าฉลาด แต่มันโง่ ก็เลยออกมาแบบโง่ๆ

ต่อไป คุณนิแรน ให้ความคิดเห็นดังนี้

คนไม่มีศาสนาเวลาตายไป ญาติก็คงเอาศพไปเผาทิ้งให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป ไม่ให้เดือดร้อนผู้อื่นหรืออุจาดตา

คุณนิแรนก็เดาถูกเหมือนกัน แต่ผิดประเด็น  ไม่ว่าใครนับถือศาสนาไหน เมื่อตายไปแล้ว ญาติก็ต้องจัดการศพให้อยู่แล้ว

ถึงไม่มีญาติเลย  ชุมชนนั้นก็ต้องจัดการให้อยู่แล้ว 

แต่ที่เขาถามนั้น  เขาถามถึง “ใจ-จิต-วิญญาณ” โน่น  ว่าตายแล้วจะไปไหน  ไม่ใช่ถามกายเนื้อ

คนที่ตอบถูกแต่กวนโอ๊ยวัยรุ่นไปหน่อยคือ คุณเจตวิมุติ  ท่านตอบดังนี้

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวครับ รอให้พวกนั้นเขาไปเสียดายตอนตายแล้วนั่นแหละ

คนถามเขาอยากจะรู้ชาตินี้  เร็วๆ หน่อยด้วย  ไม่งั้นจะมาถามในห้องศาสนารึ  นี่รอให้ตายไปก่อน มันจะทันกินหรือไง

โดยหลักการของทางศาสนาพุทธแล้ว  ศาสนาพุทธเป็นจริงที่สุดกว่าทุกศาสนา  ศาสนาอื่นๆ มันเกิดจากมารแทรกซ้อน ทำให้คนในยุคนั้น เห็นดีเห็นงามไป และตั้งศาสนาต่างๆ ขึ้นมา

ดังนั้น  นรก สวรรค์มีแห่งเดียว คือ ของศาสนาพุทธ 

เมื่อเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าใครจะทำความดีไว้ขนาดไหนก็ตาม เช่น บิล เกตส์บริจาคเงินเป็นพันๆ ล้าน ตายแล้วก็ตกนรกอยู่ดี  เพราะ บุญนั้นจะต้องเป็นบุญกิริยาวัตถุ 10 ในศาสนาพุทธเท่านั้น

พระภิกษุสงฆ์จึงเป็นเนื้อหาบุญของโลก

ในทางวิชาธรรมกาย เราก็เห็นอย่างนั้น คือ ไม่ว่าท่านจะอยู่ศาสนาไหน หรือไม่มีศาสนาเลย ก็ไปอบายภูมิทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่เหลือหรอ

ที่นี่ ถ้าคนคริสต์ หรืออิสลามถามว่า นรก สวรรค์ของเขาก็มี  เขาก็ต้องไปนรกสวรรค์ ของเขา

อันนี้ เราถามได้ว่า “พวกเขาพิสูจน์กันอย่างไร” 

ในทางศาสนาพุทธนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า จะดูคนที่ตายไปแล้ว ว่าไปอยู่ไหน จะต้องทำอย่างไร   เราทำตาม เราก็ไปพิสูจน์ได้


แต่ในทางศาสนาคริสต์ หรืออิสลาม ไม่มีวิธีการพิสูจน์เลย ให้ “เชื่อ” อย่างเดียว  พวกนั้นก็เลยไม่มีทางพิสูจน์


-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

2 ความคิดเห็น:

  1. เป็นดร.ใช่ไม๊ครับ?
    ลองอธิบายคำว่าทฤษฎีให้ผมเข้าใจหน่อยจะได้ไหมครับ?

    ตอบลบ
  2. คุณเคยเห็นสิ่งที่เป็นไม้ลอยน้ำหรือไม่ .... สมมุติว่า

    ครั้งที่ 1 คุณเห็นลังลอยน้ำ ลังนั้นเป็นลังไม้ การเห็นลังลอยน้ำด้วยตาของคุณเอง เป็นข้อเท็จจริง (fact) จากข้อเท็จจริงดังกล่าว คุณก็ได้ความรู้ว่า "ไม้มันลอยน้ำได้"

    ครั้งที่ 2 คุณเห็นขอนไม้ลอยน้ำด้วยตาของคุณเองอีก ไม่ใช่ฟังจากเพลงของบ่าววี ความรู้นี้ ก็เป็นข้อเท็จจริง (fact) อีกอันหนึ่ง คุณแน่ใจขึ้นอีกว่า "ไม้มันลอยน้ำจริงๆ"

    ครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ คุณเห็นซุงลอยน้ำ ซุงเป็นไม้ ตอนนี้คุณแม่นใจค่อนข้างเต็มร้อยแล้วว่า "ไม้มันลอยน้ำแน่ๆ" คุณเลยตั้งทฤษฎีขึ้นมาได้ว่า "ไม้ลอยน้ำ"
    แต่คุณไม่เห็นไม้ทั้งโลกลอยน้ำนะ จำไว้ คุณเห็นปรากฎการณ์บางส่วนเท่านั้น ดังนั้น ความเชื่อที่คุณตั้งเป็นทฤษฎีขึ้นมานั้น มันก็ยังเป็นเพียง "สมมุติฐาน"

    ทฤษฎีของคุณจะยิ่งยงคงที่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีใครไปพบว่า "มีไม้จมน้ำอยู่ในโลกนี้" ถ้าเมื่อไหร่มีคนพบอย่างนั้น ทฤษฎีของคุณก็ถูกโค่น เพราะ ไม่ใช่ความจริงสากลเสียแล้ว

    มันมีไม้ที่จมน้ำอยู่ด้วย

    ถามจริง.............. มาลองภูมิ หรือไม่รู้จริงๆ ............

    ตอบลบ