มีคนถามว่า
“อยากทราบว่าถ้าเราทำบุญแผ่บุญส่วนกุศลไปให้คนที่ตายไปแล้วกี่วัน
เค้าถึงจะได้รับผลบุญนั้น”
คนถามเขาไม่ได้ถามผมหรอก
เขาถามในห้องศาสนาของพันธุ์ทิพย์ ผมเห็นว่า “น่าสนใจ” ดี ก็เลยเอามาตอบไว้ ณ
ที่นี้ด้วย
ขอตอบคำถามไปก่อน
แล้วจะวิพากษ์วิจารณ์คนที่มาให้ความเห็นทีหลัง
เมื่อพิจารณาจากคำถามนั้น
เราสามารถจะรู้ลักษณะทางสังคมในสมัยปัจจุบันไปด้วย คือ ในการส่งของปัจจุบัน มันจะต้องมีผู้ส่ง ของรัฐก็คือ
ไปรษณีย์ ของเอกชนก็มามากมาย
เมื่อส่งของก็ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
กว่าจะถึงผู้รับ ผู้ถามจึงใช้ตรรกะเดียวกันการส่งของดังกล่าว
มาตั้งเป็นคำถาม
คนถามนั้น
ไม่มีความรู้ในทางศาสนาจริงๆ
สงสัยแล้วก็มาถามจริงๆ
เรื่องนี้มีคำอธิบายในพระไตรปิฎก
ดังนี้
ภพ
3 ที่เราสังกัดอยู่นี้ มี 31 ภูมิ ตายไปแล้วก็อยู่แถวๆ นี้ไม่ไปไหน
ที่จะได้รับผลบุญคือ
“ปรทัตตุปชีวิกเปรต” พวกเดียว
คำนิยามของ
“ปรทัตตุปชีวิกเปรต” ก็คือ ปรทัตตุปชีวิกเปรต
เป็นเปรตที่เลี้ยงชีวิตอยู่โดยอาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้โดย การเซ่นไหว้ เป็นต้น
สาเหตุก็เพราะว่า
ปรทัตตุปชีวิกเปรตอยู่ในโลกมนุษย์นี้ เพราะ บาปกรรมเบาบางลงมากแล้ว
พวกนี้จะจำญาติตนเองได้ ก็มารอ เมื่อญาติทำบุญและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล
เขาก็ได้รับทันที
จากความรู้ข้างต้น
สาเหตุจำเป็น หรือเงื่อนไขที่จำเป็น (necessary condition) ก็คือ “การรู้ว่าญาติทำบุญ” การเป็นปรทัตตุปชีวิกเปรตเป็นสาเหตุที่เพียงพอหรือเงื่อนไขที่เพียงพอ
(sufficient condition)
ดังนั้น
ไม่ว่าจะเป็นเทวดา เป็นพรหม อรูปพรหม เป็นสัตว์นรก เปรต หรือมนุษย์เองก็ตาม
ถ้ารู้ว่าญาติทำบุญก็สามารถรับผลบุญโดยการอนุโมทนาได้
เมื่อ
“รู้” และ “อนุโมทนา” ก็จะได้รับผลบุญทันทีทันใด
ไม่ต้องมีเงื่อนไขเวลาว่ากี่วันถึงจะได้
ในทางวิชาธรรมกาย
เราจะเห็นร่างกายของเขาใสขึ้น สว่างขึ้นแบบทันทีทันใด เครื่องแต่งกายที่กะรุงกริ่งมอซอ กลายเป็นเครื่องทรงอย่างเทวดาทันที
ต่อไป
วิพากษ์วิจารณ์ความคิดเห็นในห้องศาสนาบ้าง ดังนี้
ความคิดเห็นที่
2 (su_k3430)
เราคิดว่า ได้ทันทีตอนกรวดน้ำให้พ่อ หลังจากตักบาตร อิ่มใจสุดๆ
คนตั้งกระทู้ก็มาถามอีกว่า
“ถ้าเราทำบุญแล้ว และไม่ได้กรวดน้ำ
คนที่ตายไม่ได้รับส่วนบุญเหรคะ แสดงว่าบุญจะถึงคนที่ตายก็ต้องกรวดน้ำก่อนเหรอคะ
เกี่ยวกันมั้ยคะ งง คะ”
คุณ
su_k3430
เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นตัวตั้ง
ญาติอาจจะไม่รู้เรื่องเลย มีคนที่คิดอย่างนี้ไม่น้อย
ดังเช่น
ความคิดเห็นที่
10 (ถ้าฉันรวยจะสวยหั้ยดูเด้อ)
ตามความคิดของเรานะ เราว่าถ้าตัวเรารู้สึกอิ่มอกอิ่มใจเมื่อไหร่ แสดงว่าบุญที่เราทำได้ไปถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว...
ความคิดเห็นที่
11 (^KaNoM_MaNiA^)
ของเราเอาง่ายๆ นะ ตอนตั้งจิตแผ่ถ้าเรารู้สึกขนลุกซาบซ่านไปทั้งตัวนี่
เปอร์เซ็นต์ได้รับแล้วสูงเลย
ความคิดเห็นที่
9 (KolfCD)
ทำบุญแผ่ส่วนกุศลไปให้คนที่ตายไปแล้ว ทำได้ทันที ทำได้ทุกเมื่อ
ยิ่งเร็วยิ่งดี ยิ่งบ่อยยิ่งดี
แต่อีกฝ่ายจะได้รับก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานะพร้อมที่จะรับเท่านั้น ในเมื่อเราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพร้อมรับเมื่อไหร่
สิ่งที่ทำได้คือเพียรส่งไปเรื่อยๆ ค่ะ
คนที่ให้คำตอบได้ใกล้เคียงก็คือ
ความคิดเห็นที่ 5
(elenote)
ได้เมื่อเขาอนุโมทนาในกุศลนั้น
ถ้าเขาอนุโมทนากุศลที่มีผู้อุทิศให้ไปก็ทราบในทันที
เมื่อไรจะทราบ - ถ้าเกิดเขาทราบว่า จขกท ได้ทำกุศล
หรือเกิดมีผู้อุทิศส่วนกุศลให้ (เช่นหลาย ๆ
คนเวลาอุทิศส่วนกุศลเขาก็ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจง เขาอุทิศเป็นการทั่วไป เช่น ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้กับเทวดา
และอมนุษย์ ขอให้ท่านมีจิตอนุโมทนาในกุศลที่ข้าพเจ้าทำ) เมื่อเขาทราบเขาก็อนุโมทนา
"แต่" ไม่ใช่ทุกภพ ทุก (เรียกว่าคนก็แล้วกัน)
ทุกคนจะอนุโมทนากุศลต่างๆ ได้
เช่นตอนเกิดเป็นมนุษย์ไม่เคยอนุโมทนาในกุศลของผู้อื่นเลย
ตายไปกายเป็นเทวดาก็คงอนุโมทนาไม่เป็น หรือกลายไปเป็นสัตว์นรก (ที่ไปเกิดในนรก)
สัตว์เดรฉาน หรือมาเกิดใหม่ แล้วเป็นมนุษย์ก็อนุโมทนาในกุศลที่ จขกท
หรือใครอุทิศให้ไม่ได้เพราะไม่อยู่ในวิสัยที่จะทราบ
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น