บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

เกิดมาแล้วจะทำยังไง


วันนี้ ขณะที่ line กับเพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก เพื่อนัดแนะกันไปเยี่ยมอาจารย์  เพื่อนก็ถามมาว่า “คนเราเกิดมาทำไม”

เพื่อนคนที่ถามนี้ คงสังเกตเห็นว่า ในรุ่นของผม ซึ่งมีประมาณ 10 คน  2-3 คน เข้าหาศาสนากันแล้ว แต่ตัวเขาเองทำแต่งาน ในช่วงนี้เกิดความเบื่อ จึงเกิดคำถามนี้ขึ้นมา

คำถามที่ว่า “คนเราเกิดมาทำไม” มันก็เป็นคำถามทั่วๆ ไป หาได้ตามเว็บ ตามหนังสือต่างๆ  แต่ในมุมมองของผม  ผมว่า “เกิดมาแล้วจะทำยังไง” สำคัญมากกว่า

มีคำตอบในเว็บบอร์ดบางเว็บที่น่าสนใจ ดังนี้

- ใช้กรรมเก่า  สร้างกรรมใหม่
- มนุษย์เกิดมาใช้กรรม
- เราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตตามกรรมที่เรามีในชาติก่อน
- เกิดมาใช้กรรมเก่า และกินบุญเก่า ที่เคยทำไว้แต่ชาติก่อน

คำตอบพวกนี้ เป็นคำตอบของพวกที่นับถือศาสนา

ไม่มีเหตุผล มันก็เป็นแค่ธรรมชาติของมัน

คำตอบนี้ เป็นพวกที่นับถือวิทยาศาสตร์ 

ก่อนที่จะตอบคำถามที่ว่า “คนเราเกิดมาทำไม” ต้องอธิบายในหลักการเสียก่อน  และต้องบอกข้อจำกัดในทางปรัชญาก่อนว่า

ไม่ว่าจะศึกษาอะไรก็ตาม มันจะต้องมีคำถามที่ตอบไม่ได้เสมอ เพราะ มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปหาคำตอบดังกล่าวได้

ดังนั้น ในการอ่านบล็อกของผม หรือหนังสือโดยทั่วไป ก็พึงรู้อยู่ในใจก่อนว่า มันจะมี “คำถามที่ตอบไม่ได้เสมอ

ดังนั้น เราก็ควรทำความพึงพอใจกับ “คำถาม” ที่เราพอจะรู้คำตอบได้เท่านั้น

- มนุษย์ต้องไปอยู่ในอายตนะนิพพานทุกคน

เมื่อเรามี “ดวงวิญญาณ/ใจ/จิต” ที่สามารถไปเกิดได้ เวียนตายเวียนเกิดได้แล้ว  ทุก “ดวงวิญญาณ/ใจ/จิต” นั้น  ในชาติสุดท้ายจะได้ไปอุบัติในอายตนะนิพพานทุกคน

สรุปอย่างสั้นๆ ก็คือ  อายตนะนิพพานคือ “บ้าน” หลังสุดท้ายของเราทุกคน

นี่รวมถึง “ดวงวิญญาณ/ใจ/จิต” ทุกดวงที่อยู่ใน นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน, โลกมนุษย์, สวรรค์ 6 ชั้น รูปพรหม 16 ชั้น อรูปพรหม 4 ชั้นด้วย

นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน, โลกมนุษย์, สวรรค์ 6 ชั้น รูปพรหม 16 ชั้น อรูปพรหม 4 ชั้นนั้น คือ บ้านชั่วคราวของพวกเรา

พวกเราที่เกิดมาในโลกนั้น  โดยหลักการแล้ว เราต้องเกิดมาเพื่อสร้างบุญบารมีอย่างเดียว เพื่อให้บารมีครบ 30 ทัศ 

เมื่อบารมีครบ 30 ทัศแล้ว  เราจึงสามารถตัดกิเลสได้เด็ดขาด  ภาษาพระก็ว่า “เป็นสมุจเฉทปหาน”คือ การละกิเลสได้ขาดอย่างพระอรหันต์

ถ้าบารมีไม่ครบ 30 ทัศ  เราไม่สามารถตัดกิเลสได้อย่างเด็ดขาด  ตัดได้เล็กๆ น้อยๆ แบบชั่วคราว เดี๋ยวมันก็มาอีก

อย่างไรก็ดี  มนุษย์เมื่อเกิดมาในโลก ไม่สร้างบารมีอย่างเดียวเสียแล้ว แต่ต่างก็ทำทั้งความดีและความชั่ว  

กรรมดี กรรมชั่วที่ทำ เราก็ต้องรับผลของกรรมนั้น  พวกทำดีมากก็ไปสุคติภูมิก่อน  พวกทำชั่วมาก ก็ไปทุคติภูมิก่อน

- ดวงวิญญาณ/ใจ/จิตมาจากไหน

เมื่อเรารู้หลักการของเราแล้วว่า  เราเกิดมาเพื่อสร้างบารมีให้ครบ 30 ทัศ แล้วจะไปอุบัติในอายตนะนิพพาน 

บางคนก็สงสัยเพิ่มอีกว่า ดวงวิญญาณ/ใจ/จิตของเรามาจากไหน

ตรงนี้ ต้องขอพาดพิงถึงความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูกันก่อน 

ความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้น  เขาเชื่อกันว่า “ดวงวิญญาณ/ใจ/จิต” นั่น หลุดมาจากมหาพรหมัน ซึ่งเป็นใหญ่ที่สุดและมีหนึ่งเดียว

เมื่อดวงวิญญาณนั้นหลุดมาแล้ว  ก็จะต้องสร้างบุญบารมีให้ครบ แล้วจะกลับเข้าไปอยู่กับมหาพรหมันอีกครั้งหนึ่ง  เพื่อให้พบความสุขตลอดไป

ความเชื่อดังกล่าวนั้น  ศาสนาพุทธเถรวาทในเมืองไทยไม่ยอมรับ

อย่างไรก็ดี  จากการตรวจสอบด้วยวิชาธรรมกาย  พวกผมพบว่า  หลายๆ คนที่เป็นวิทยากรของเรา “พิสดารกาย” มาจากธาตุธรรมจริงๆ  

ธาตุธรรมที่ว่าก็คือ จักรพรรดิ พระพุทธเจ้าที่เก่าๆ แก่ๆ

ขออธิบายคำว่า “พิสดารกาย” ก่อน 

ตามหลักวิชาธรรมกายนั้น กายของเรามีกายหลัก 18 กาย  แต่ละ 18 กายนั้น ก็จะมี 18 กายของเขาไปเรื่อยๆ  

ดังนั้น  คนเราแต่ละคนจะมีกายละเอียดนับไม่ถ้วน  พระพุทธเจ้า หรือจักรพรรดิที่เป็นใหญ่ในธาตุธรรมก็มีกายอย่างนั้น นับไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน 

ในการเผยแพร่ศาสนานั้น  ธาตุธรรมที่มีหน้าที่ดูแลศาสนาพุทธ ท่านจะไม่มาเกิดเอง แต่ท่านจะ “พิสดารกาย” ให้กายบางกายของท่านมาเกิด เพื่อทำงานให้ศาสนา

กายที่มาเกิดนี้ จะไม่เข้าไปรวมกับกายของธาตุธรรมเดิมอย่างหลักการของ “มหาพรหมัน”  แต่จะต้องสร้างบารมีให้ครบ 30 ทัศ เพื่อกำจัดกิเลสให้ได้ และเข้าไปอยู่ในอายตะนิพพาน

แต่ถ้าถามว่า “ดวงวิญญาณ/ใจ/จิต” ของคนโดยทั่วๆ ไปมาจากไหน  คำตอบง่ายมาก คือ “ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกัน”

- เกิดมาแล้วจะทำยังไง

เข้ามาถึงประเด็นสำคัญ  คำถามที่ว่า “คนเราเกิดมาทำไม” นั้น ผมว่ายังไม่สำคัญเท่ากับคำถามที่ว่า “เกิดมาแล้วจะทำยังไง” เพราะ มันเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า

เมื่อเราสร้างบารมีครบ 30 ทัศแล้ว เข้าไปอุบัติในอายตนะนิพพานแล้ว  เราก็น่าจะรู้คำตอบดังกล่าวเอง  รวมถึงคำตอบที่ว่า “ดวงวิญญาณ/ใจ/จิตมาจากไหน” ด้วย

เมื่อเกิดมาแล้ว เรารู้แล้วว่า ต้องสร้างบารมีเพื่อให้บารมีครบ แล้วไปอายตนะนิพพานซึ่งเป็นบ้านถาวรให้ได้ 

เราก็ควรสร้างบุญบารมีให้มากที่สุดในชาตินี้

อย่างน้อยๆ เมื่อตายไปแล้ว ก็อย่าไปอยู่ในบ้านชั่วคราวประเภท นรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน ควรไปอยู่บ้านชั่วคราวประเภทสวรรค์ รูปพรหม และอรูปพรหม

เมื่อเกิดมาใหม่ ก็ขอให้พบศาสนาพุทธ ได้สร้างบารมีกันต่อ


ในการสร้างบุญบารมีนั้น  ถ้าไม่รู้จะทำยังไง  ก็ไปอ่านที่นี่ก็แล้วกัน http://sueksakarun.blogspot.com/p/blog-page_22.html

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น