บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

พระอรหันต์ตายแล้วสูญหรือเปล่า




มีคนไปตั้งกระทู้ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ว่า “พระอรหันต์ตายแล้วสูญหรือเปล่า” พวกที่ไปให้ความคิดเห็นก็เป็นพวกบรรดาสมองหมา ปัญญาควายหน้าเดิมๆ หาสาระความรู้อะไรไม่ได้

พวกนี้ ผมยืนยันว่า สมองหมา ปัญญาควายตัวจริงเสียงจริง มีทั้งห่มผ้าเหลืองและไม่ห่มผ้าเหลือง  บางคนอยู่มาเป็น 10 ปี ก็ยังสมองหมา ปัญญาควายเหมือนเดิม

เอาที่มาของคำถามนี้ก่อน พวกที่ตีความว่านิพพานสูญไปเลยนั้น ไปตีความจากข้อความนี้  “นิพพานัง ปรมัง สุญญัง"

ขอให้ดูการตีความที่ถูกต้องจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำกันก่อน ดังนี้

"นิพพานัง ปรมัง สุขัง" - แปลเป็นใจความว่า นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง แต่ทว่าเรื่องพระนิพพานนี้ มีความเข้าใจเฝือของบรรดาท่านพุทธบริษัทอยู่มาก ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้จุดหนึ่งว่า

"นิพพานัง ปรมัง สุญญัง" - ซึ่งแปลเป็นใจความว่า นิพพานเป็นธรรมว่างจากความทุกข์ ว่างจากกิเลส โลภ โกรธ หลง ว่างจากขันธ์ 5 ว่างจากดิน น้ำ ลม ไฟ ว่างอย่างยิ่ง

นิพพานัง ปรมัง สุญญัง" แปลกันอย่างง่ายๆ ซื่อสัตย์ต่อตนเอง และวิชาการ และสอดคล้องกับพระไตรปิฎกในส่วนอื่นๆ ก็คือ นิพพานว่างจากกิเลสทั้งหมด

ที่มีการตีความไปเป็นว่า นิพพานสูญไปเลย ก็มาจากพวกที่ไปเชื่อวิทยาศาสตร์ พวกอนาคตสัตว์นรกเหล่านี้ ไม่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ 

นิพพานมันก็ไม่เชื่อกันว่ามีจริง

จึงมีการตีความไปอย่างนั้น   พวกสัตว์นรกด้วยกัน ก็เชื่อกันไปหมด พวกนี้ ตายไปแล้ว ไปรวมตัวกันในนรกทั้งนั้น

ตอนนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านขึ้นไปดูอรหันตสูตรกับนิพพานสูตรข้างบนก่อน

ความจริงในเรื่องนี้ ควรเอาอนัตตลักขณสูตรมาร่วมในการถกเถียงด้วย เพราะ อนัตตลักขณสูตรเป็นพระสูตรแรกที่กล่าวถึงพระอรหันต์

อย่างไรก็ดี ข้อ 152 ของอรหันตสูตรนั้น เนื้อหาก็เหมือนกับอนัตตลักขณสูตร ผมเลยไม่ต้องเอาลักขณสูตรมาแสดงไว้ด้วย

จากนิพพานสูตรนั้น เรารู้ว่าอายตนะนิพพานมีอยู่  แต่ไม่มีอะไรเหมือนกับในภพ 3 เลย  ภาษาในภพ 3 นี้ บรรยายอายตนะนิพพานไม่ได้เลย

จากอรหันตสูตร เราก็รู้ว่า พระอรหันต์ดีเลิศ ประเสริฐที่สุดในโลก, มีร่างกายในโลกนี้เป็นร่างกายสุดท้ายแล้ว และ หลุดจากภพนี้ ก็ไปอรหันตภูมิ ซึ่งก็คือ อายตนะนิพพาน

ต่อไปเรามาวิพากษ์วิจารณ์ไอ้พวกสมองหมา ปัญญาควายที่ว่า นิพพานสูญ พระอรหันต์สูญไปเลย เอากันแบบชาวบ้านๆ กันก่อน

1- จากอรหันตสูตร และพระสูตรอื่นๆ พระอรหันต์ รวมถึงพระพุทธเจ้าด้วย ตรงนี้ขออธิบายก่อนว่า พระพุทธเจ้าก็เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง แต่พระพุทธเจ้าทรงบรรลุด้วยพระองค์เอง

พระอรหันต์กับพระพุทธเจ้านั้น เมื่อบรรลุพระอรหันต์แล้ว ยังไม่ปรินิพพาน  ไอ้พวกที่เชื่อว่า นิพพานสูญ พระอรหันต์สูญ มันจะอธิบายตรงนี้อย่างไร

ถ้านิพพานสูญ พระอรหันต์สูญจริง  พระอรหันต์กับพระพุทธเจ้า เมื่อบรรลุพระอรหันต์กันแล้ว ก็น่าจะหายวับไปกับตาเลย

การที่พระอรหันต์เมื่อบรรลุแล้ว ยังมีกายเนื้ออยู่ไอ้พวกสมองหมา ปัญญาควายเหล่านั้น มันควรจะอธิบายได้ว่า ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น

คนที่เชื่อตามปกติที่ว่า พระอรหันต์ตายแล้วไม่สูญ เขาก็มีคำอธิบายที่ถูกต้องไว้แล้วก็คือ กิเลสของท่านสูญหมดไปแล้ว 

2- จากอรหันตสูตร และพระสูตรอื่นๆ เรารู้มาว่า พระอรหันต์ รวมถึงพระพุทธเจ้านั้น มีฤทธิ์กันพอสมควร  มีฤทธิ์มาก ก็ว่าได้ 

ถ้าพระอรหันต์กับพระพุทธเจ้ารู้ว่า เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว สูญเลย หายเลย  ใครจะปรินิพพานกัน  ผมว่า คงไม่มีใครต้องการเป็นพระอรหันต์กันแน่ๆ

ในทางวิชาธรรมกายนั้น  เมื่อเราทำวิชา 18 กายได้ เราก็จะหมดกิเลสชั่วคราว แล้วกายธรรมของเราก็จะถูกอายตนะนิพพานดึงดูดเข้าไป

คนที่ฝึกวิชาธรรมกาย จึงเห็นอายตนะนิพพานกันเป็นประจำ

เมื่อถึงคราวที่จะบรรลุพระอรหันต์กันจริง  เราจึงไม่แปลกแยก  เพราะ เห็นอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

พวกที่ฝึกสายอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นอายตนะนิพพานกันเลย โดยหลักการจึงไม่มีโอกาสบรรลุพระอรหันต์แน่ๆ 

แต่สมมุติว่า มีโอกาสได้เข้าอายตนะนิพพานโดยบังเอิญ (แบบกิเลสหมดชั่วคราวแบบบังเอิญ) เขาจะรู้หรือมั่นใจได้อย่างไรว่า นั่นคือ อายตนะนิพพานจริง 

ส่วนใหญ่แล้ว พวกที่ฝึกสายอื่น แล้วบอกว่า ได้เห็นพระพุทธเจ้า เห็นนิพพาน ส่วนใหญ่ถูกมารหลอกเอาทั้งสิ้น 

ศัพท์ในทางวิชาธรรมกายท่านว่า ถูกมารจูงรู้จูงญาณ

โดยสรุป

ไอ้พวกสมองหมา ปัญญาควายที่ท่องว่า “นิพพานสูญ พระอรหันต์สูญ” มันไปเชื่อพวกปริยัติ ที่ไม่เคยปฏิบัติอย่างเดียว  เชื่อแบบควาย โดยไม่คิด ไม่ไตร่ตรอง ไม่ศึกษาให้มากขึ้น

จากอรหันตสูตรกับนิพพานสูตรข้างบนนั้น  ก็ยืนยันชัดเจนว่า เมื่อพระอรหันต์ตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็จะไปอุบัติอยู่ที่อายตนะนิพพาน

เรื่องง่ายๆ แค่นี้ 

ขอให้สังเกตดูว่า เวลาที่เถียงกันเรื่องนี้ ไอ้พวกสมองหมา ปัญญาควายที่เชื่อว่า “นิพพานสูญ พระอรหันต์สูญ” มันจะไม่กล้ากล่าวถึงพระสูตรดังกล่าว

มันก็จะมั่วไปที่หลักฐานอื่นๆ อันเลอะเทอะเปรอะเปื้อนของมัน



-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น