ดินแดนของพระเจ้ากับนิพพาน อะไรดีกว่ากัน

มีกระทู้ชื่อ “การไปเกิดในดินแดนของพระเจ้า กับการนิพพาน อะไรดีกว่ากัน” ของห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ ที่ผมเห็นว่า ควรนำมาวิเคราะห์เจาะลึกกัน เพราะ คนในยุคนี้จำนวนมากก็สงสัยอย่างนั้น

เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้

ผมสงสัยว่าทำไมพวกศาสนาคริสต์กับอิสลามถึงอยากไปเกิดในดินแดนแห่งพระเจ้ากันครับ  

แล้วทำไมศาสนาพุทธถึงไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าและดินแดนแห่งพระเจ้า แต่กลับหาวิธีการหลุดพ้นในการเกิดแก่เจ็บตายทั้งปวง ซึ่งเรียกว่านิพพาน คือ การละเว้นทุกอย่างกิเลส-ตัณหาเพื่อไม่ต้องกลับมาวนเวียนว่ายตายเกิด

นี้แหละครับข้อสงสัยของผม

ผมแค่อยากจะรู้ว่าการไปเกิดในดินแดนแห่งพระเจ้ากับการนิพพานแล้วไม่ต้องเกิด-ตายอีก อะไรจะดีกว่ากันครับ

ใครซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอความกรุณาช่วยชี้แนะผมหน่อยนะครับ

มีความคิดเห็นที่เป็นคำตอบ อันควรจะนำมาไปแนวทางในการวิเคราะห์เจาะลึกกันดังนี้

1 อะไรจริง อันนั้นดีกว่า 

เป็นคำตอบที่ถูกแบบเถียงไม่ออก  แต่ปัญหาก็คือ แล้วศาสนาไหนมันจริงล่ะ  ผมเคยเขียนไปแล้ว ไปหาอ่านได้ที่นี่

http://drmanasanswers.blogspot.com/2015/01/blog-post.html

1.1 ถ้า God มีจริง แต่นิพพานไม่มี  ชาวพุทธก็ซวยไป เพราะไม่เชื่อไม่รับ God  ตายไปก็จะโดนตัดสินให้ตกนรกนิรันดร์

ขออธิบายเพิ่มเติมว่า คำสอนของศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลามนั้น  เขาเชื่อว่าเกิดมาชาติเดียวเท่านั้น  ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด

ตายไปแล้ว มีโอกาสไป 2 ทางคือ สวรรค์นิรันดรกับนรกนิรันดร คือ ถ้าได้ขึ้นสวรรค์หรือดินแดนของพระเจ้าก็จะอยู่ตลอดไป  ถ้าลงนรกหรือดินแดนของซาตานก็จะอยู่ตลอดไปเหมือนกัน

พวกระเบิดฆ่าตัวตายนั้น เขาก็ถูกสอนว่า ถ้าทำแบบนั้น เขาจะได้ by pass ขึ้นสวรรค์ไปเลย ไม่ต้องรอวันพิพากษา  ดังนั้น ศาสนาอิสลามจึงมีระเบิดฆ่าตัวตายมาก

1.2 ถ้านิพพานมีจริง แต่ God ไม่มี

ชาวคริสต์ก็เสียโอกาสไปชาติหนึ่ง  แต่ยังมีโอกาสอีกไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับเปลี่ยนความเชื่อ  เพราะถ้ายังไม่นิพพาน ก็เวียนว่ายตายเกิดไปเรื่อยๆ

ชาวคริสต์ตายไป อาจจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ของพุทธก็ได้ เพราะขึ้นอยู่กับความดี ไม่ขึ้นกับสังกัดศาสนาในตอนมีชีวิต

ยกเว้นนิพพาน ต้องเชื่อพุทธและฝึกจนบรรลุก่อน คนศาสนาอื่นจึงไม่ครบเงื่อนไข

คนที่เป็นคริสต์ในชาตินี้ อาจจะบรรลุแซงคนที่เป็นพุทธในชาตินี้ก็ได้ เพราะความเชื่อปุถุชนเปลี่ยนได้ตลอด

ข้อความในส่วนที่ผมเน้นสีแดงนั้น ไม่จริงนะครับ  แต่ต้องอธิบายเพิ่มเติมเหมือนกัน เพราะ มันมีรายละเอียดหลายอย่างหลายประเด็น

1- ภพภูมิของศาสนาพุทธนั้น เป็นความจริงแท้สากลนะครับ  ศาสนาอื่นๆ นั้น เห็นผิด รู้ผิดทั้งนั้น

จากการที่วิทยากรในวิชาธรรมกายขึ้นสวรรค์กันบ่อย  เราพบว่า ไม่มีคนในศาสนาอื่นๆ ขึ้นสวรรค์เลย  เพราะ ไม่มีบารมีในศาสนาพุทธเลย

พวกนี้ วิชาธรรมกายถือว่า ยังไม่มีโอกาสที่ได้เริ่มสร้างบารมี  คำถามก็เกิดมาว่า แล้วเมื่อไหร่จะได้สร้างบารมีล่ะ ชาติไหนล่ะ

ขอยกตัวอย่างประสบการณ์ตรง... ตอนที่ผมไปเรียนที่อังกฤษ  บรรดาเพื่อนฝูงยุให้หาฝรั่งมาเป็นแฟนสักคนหนึ่ง

ผมก็ไม่ทำให้บรรดาเพื่อนผิดหวังมากนัก  ให้ผิดหวังเล็กๆ คือ มีแฟนเป็นคนเวียดนาม  ถือว่าได้ฝรั่งเหมือนกัน ได้เป็นฝรั่งเวียดนาม

“ง็อก” เป็นเวียดนามที่เหมือนไทยมาก  เวลาเดินสวนกันในตึก ผมจะทักเป็นภาษาไทยตลอด พอเห็นหน้าก็นึกว่าเป็นคนไทย

เขาก็หัวเราะตลอด แล้วมักจะถามกลับเสมอว่า “คุณพูดอะไร”

ผมเคยพาไปเที่ยววัดพระแก้ว  พาเดินผ่านแบบไม่เสียค่าผ่านประตู ปรากฏว่า ผ่านได้สะดวก  ตรงนี้ บอกก่อนว่า ไม่ได้เสียดายเงิน แต่อยากจะรู้ว่า คนอื่นจะดูออกหรือไม่

“ง็อก” นับถือศาสนาคริสต์  แต่พอไปเห็นตู้บริจาคในอุโบสถของวัดพระแก้ว  เขาก็หยิบเงินใส่ตู้เลย  ผมไม่ได้ยุ  ยืนงงๆ เหมือนกัน

นี่ถือว่า “ง็อก” ได้ทำบุญกับศาสนาพุทธเป็นชาติแรก

2- อย่างไรก็ดี จากประสบการณ์ของวิทยากรหลายๆ ท่าน  ท่านพบว่า ท่านไม่ได้เกิดในศาสนาพุทธตลอด  บางชาติเป็นฝรั่ง บางชาติเป็นเกาหลี

กรณีอย่างนี้ ตายแล้วขึ้นสวรรค์ของศาสนาพุทธได้ 

1.3 ถ้า God ไม่มี  นิพพานก็ไม่มี (สมมติโลกนี้ มีแค่สองศาสนานี้ ไม่นับศาสนาอื่นอีก) หลักธรรมของใคร ทำให้มีความสุขในปัจจุบันตอนยังมีชีวิตอยู่ มากกว่า อันนั้นก็ดีกว่า

ถ้าพูดอันอย่างจริงจังก็ต้องว่า ศาสนาไม่จริง  วิทยาศาสตร์จริง.. ก็ทำตัวให้ถูกกับคุณธรรม จริยธรรมก็แล้วกัน

2  ถ้าจริงทั้งคู่   God ก็จริง นิพพานก็จริง  นิพพานควรจะดีกว่า เพราะนิพพานแล้วก็จบเลย ไม่มีโอกาสตกนิพพานอีก

แต่ทางคริสต์  ยังน่าเป็นห่วงอยู่  เพราะกังวลถึงความไม่แน่นอนของน้ำพระทัย God และความไม่แน่นอนของจิตใจมนุษย์

ในทางศาสนาแล้ว จริงทั้งคู่ไม่ได้นะครับ  ในแง่ของเรา เราก็ต้องว่าศาสนาพุทธจริง 

อันที่จริงก็เป็นอย่างนั้น เพราะ เราสามารถพิสูจน์ตามได้  ศาสนาคริสต์-อิสลามบังคับให้เชื่ออย่างเดียว ห้ามสงสัย ห้ามพิสูจน์

แต่ข้อความที่น่าสนใจก็คือ ส่วนที่เน้นสีแดงไว้  รู้สึกว่า พระเจ้ากับเทวดาของศาสนาคริสต์+-อิสลามนี่ อุปนิสัยใจคอของท่านไม่ค่อยคงที่ 

หลายครั้งหลายหนท่านทำลายคนในโลกมนุษย์เสียเอง  ฆ่าทีหนึ่งเยอะๆ เสียด้วย...

-------------------------

เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)

www.manaskomoltha.net

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/

Line ID : manas4299

Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/

โทรศัพท์ : 083-4616989