มีคนไปตั้งกระทู้ทำนองตามชื่อของบทความนั้น ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ ความคิดเห็นส่วนใหญ่ก็เป็นปรกติของบอร์ดนั้น คือ สมองหมา ปัญญาควาย
มีความคิดเห็นที่พอจะนำมาเป็นการเกริ่นนำในการเขียนบทความนี้
ดังนี้
ตอนเผยแพร่
ลงมาเผยแพร่ที่อินเดียที่ฮินดูยึดครองแทบจะทุกตารางนิ้ว วิธีดึงส่วนแบ่งตลาดที่ดีที่สุด
ก็คือยอมรับเทพเจ้าน่ะแหละ
ดูคนยุคนี้ก็เห็นชัดแล้ว
ถ้าเดินไปบอกคนเคร่งศาสนามากๆ ว่าพระเจ้าของนายน่ะไม่มีจริงนะ
อาจจะโดนชกหน้าเอาได้
คนโบราณก็ไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่หรอก
ความคิดเห็นนี้
คนให้ความคิดเห็นตกนรกแน่นอน คือ รู้ไม่จริง ยังจะดูถูกพระพุทธเจ้าอีก
พระพรหม พระอินทร์ ราหู
ไม่เกี่ยวกับศาสนาพุทธ แต่คนที่นับถือพุทธงมงายไปเอง เขาบูชาราหู
ก็เที่ยวซื้อของดำ(สกปรกจะตายชัก) ไปบูชากะเขาด้วย แปลว่า เขาเฮไหน ก็เฮด้วย
โดยไม่รู้ ครับ
แล้วคำว่า
"ดูกร" นี่มัน "ดูมือ" ใช่ไหม ?? เห็นนกแก้วท่องกันจังฮู้
ไอ้นี่ก็รู้ไม่จริง
แล้วก็สมองหมา ปัญญาควายตัวจริงเสียงจริง คำว่า “ดูกร”
เขาอ่าน “ดู กะ ระ” เป็นคำเกริ่นนำ ก่อนที่จะกล่าวถึงประเด็นต่อไป
พระพรหม พระอินทร์ พระราหู ของพุทธมีครับ
แต่ไม่เหมือนของพราหมณ์-ฮินดู ของพราหมณ์ พระพรหม พระอินทร์ พระราหู เป็นชื่อเฉพาะ
มีคนเดียว
แต่ของพุทธ พระพรหม เป็นเทพในพรหมโลก
เกิดด้วยกำลังญาณ พระอินทร์ เป็นตำแหน่งที่ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงค์ พระราหู
เป็นเทพอสูรชนิดหนึ่งที่มีร่างกายใหญ่โตกว่าเทพอสูรทั่วๆ ไป
ดังนั้น พระพรหมของพุทธจึงมีหลายคน
และไม่ได้มีสี่หน้าสี่มืออย่างที่เข้าใจกัน
ส่วนพระอินทร์ เป็นตำแหน่ง มีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเรื่อยๆ
พระราหู ก็ไม่ได้อมเดือนอมตะวันเหมือนของพราหมณ์
ความคิดเห็นนี้เกือบถูก....
ก่อนอื่นต้องเกริ่นนำก่อนดังนี้ ในดินแดนขวานทองของเรานี้ มีคนมาอยู่กันนานแล้ว
ก่อนที่ศาสนาพุทธจะถือกำเนิดขึ้นมา
ดินแดนขวานทองของเราก็มีคนแล้ว มีความเจริญพอสมควรแล้ว คือ
มีความเป็นเมืองแล้ว มีวัฒนธรรมแล้ว
ณ
ตอนนั้น ประชากรในแดนแหลมทองของเรา นับถือผีกัน
ร่องรอยการนับถือผียังปรากฏอยู่มากมกาย เมื่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเข้ามา
เราก็รับศาสนาพราหมณ์-ฮินดูด้วย
ต่อมา
ศาสนาพุทธเข้ามาเราก็รับศาสนาพุทธด้วย
ดังนั้น ประเทศของเรานี้ จึงนับถือ “พุทธ-ผี-พราหมณ์”
ปนกันไป “ผี” ที่ว่านี้ รวมไสยศาสตร์ด้วยนะ
อย่างไรก็ดี
ในการเป็น “พุทธ-ผี-พราหมณ์” นั้น
พี่ไทยของเรามีการจัดลำดับ
พุทธอยู่ในระดับสูงสุด ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูรองลงมา ศาสนาผีนั้น อยู่ท้ายสุด
ยกตัวอย่างเช่น เราทำบุญกับพระเพราะต้องการเป็นพื้นฐานไปนิพพาน
แต่ชาตินี้ มักน้อย เอาแค่สวรรค์ไว้ก่อน
แต่เมื่อไหร่
เราจะตั้งศาลพระภูมิ เพื่อเชิญเจ้าที่มาดูแลบ้าน
เราก็จะไปพึ่งพราหมณ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู
เมื่อไหร่ก็ตาม
เราต้องการเงินสดด่วน แต่ในบัญชีมันมีน้อย เราก็จะไปพึ่งผี ไปขอหวย ขอเลขกับผี
ต่อมาเข้าเรื่อง
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูกับศาสนาพุทธที่เข้ามาในประเทศไทยนั้น
ไม่ได้เข้ามาเฉพาะในตำราของทางศาสนาแต่เพียงอย่างเดียว แต่เข้ามาในทางอื่นๆ ด้วย เช่น วรรณคดี นิทาน
นิยาย ฯลฯ เป็นต้น
ถ้ายกตัวอย่างของศาสนาพุทธ
ที่เป็นตำราของทางศาสนาก็คือ พระไตรปิฎก อรรถกถา ฏีกา อนุฏีกา อัตตโนมติ นอกจากนั้น ยังมีคัมภีร์นอกนิบาติ คือ
เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเอง ไม่ได้มีอยู่ในพระไตรปิฏก
ในทางศาสนาพุทธที่เป็นวรรณคดี
นิทาน นิยายนั้นมีอีกเพียบ
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้น
คัมภีร์หลักของเขาคือพระเวท มี 4 เล่ม คือ ฤคเวท สามเวท ยชุรเวท และอาถรรพเวท
สำหรับวรรณคดีของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูก็เช่น
ภควัทคีตา รามเกียรติ์ เป็นต้น
ในเรื่องทำนองนี้
ต้องยกตัวอย่างพระอินทร์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูกันเป็นตัวอย่าง เพราะ
จะเห็นภาพพจน์ได้ดี
พระอินทร์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูท่านชื่อ
“สหัสนัยน์” แปลว่า “พันตา”
ความเป็นมาของชื่อก็คือ
พระอินทร์ไปลอบเป็นชู้กับเมียของฤาษี
ฤาษียั๊วจัดเลยสาปให้มีอวัยวะเพศหญิงเต็มตัวพระอินทร์ พระอินทร์จึงได้ชื่อ ณ ตอนนั้นว่า “สหัสโยนี” ก็แปลเป็นภาษาไทยกันเองก็แล้วกัน
ต่อมา
พระอินทร์ไปอ้อนวอนขอโทษฤาษี ฤาษีคงจะใจอ่อนลงแล้ว
ก็เปลี่ยนอวัยวะเพศหญิงให้เป็นตา
ต่อมา
อธิบายในมุมมองของวิชาธรรมกายกันบ้าง เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ความคิดเห็นสมองหมา
ปัญญาควายเหล่านั้นก่อน
จักรวาลทั้งหลายทั้งปวงนั้น
ที่ศาสนาคริสต์เชื่อกันว่า “พระเจ้าเป็นผู้สร้าง”
นั้น บังเอิญถูกนะครับ คือ ถูกตามความเชื่อที่มีมา
โดยไม่รู้ ไม่เข้าใจ
ขอย้ำอีกว่า
ณ ตอนนี้ นักดาราศาสตร์ หรือนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ก็เชื่อแล้วว่า “จักรวาลนี้ ต้องมีผู้สร้างขึ้น แต่ไม่ใช่พ่อของพระเยซู”
ในทางวิชาธรรมกายแล้ว จักรวาลทั้งอนันตจักรวาลนั้น
จักรพรรดิผู้เป็นผู้สร้าง จักรพรรดิของศาสนาพุทธนี่แหละ ที่ศาสนาคริสต์เข้าใจว่าเป็นพระเจ้า
ในเมื่อจักรพรรดิในศาสนาพุทธทรงสร้างจักรวาลนี้ขึ้นมา ภพ 3 และเทวดา รูปพรหม
อรูปพรหมในศาสนาพุทธจึงเป็นของจริง
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้น
เกิดจากพรหมองค์หนึ่งเข้าใจผิดว่า ตนเองเป็นอมตะ จึงสอนผิดเพี้ยนไป
บรรดาสาวกทั้งหลายก็เข้าใจผิดกันไปเรื่อย
ดังนั้น
เทวดาหรืออะไรก็ตามของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจึงผิดเพี้ยนไปจากศาสนาพุทธ
นี่ไม่ได้หมายถึงศาสนาพุทธในยุคของพระพุทธเจ้าของเราพระองค์เดียว
หมายถึงก่อนหน้านั้นด้วย
โดยสรุป
พุทธศาสนิกชนก็ต้องศึกษาว่า
เทวดาหรืออะไรก็ตามนั้น เป็นของแท้จริงในศาสนาพุทธหรือไม่
ถ้าเป็นจริงก็นับถือได้
นับถือได้ที่ว่านี้
หมายถึงในลักษณะของผู้น้อยกับผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่ลักษณะที่จะไปขอพึ่งพาอาศัย เพราะ
มนุษย์นั้นแหละมีอำนาจ มีกำลังในการสร้างบารมีมากว่าเทวดา อินทร์ พรหมทั้งหลาย
อะไรก็ตามที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เป็นของไสยศาสตร์ เป็นของมาร เช่น ราหู
พระอิศวร พระพิคเณศ ฯลฯ ก็อย่าไปนับถือ เพราะ มันจะพาตกนรก....
-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989
เทพเจ้าและเทวา ล้วนเป็นสัญลักษณ์ของความดีต่าง ๆ กราบไหว้ได้สนิทใจ ไม่ตกนรกหรอกในเมื่อไม่ได้ทำชิ่งที่ชั่ว...
ตอบลบ