บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

กฎแห่งกรรม: ตายยกโคตร


วันนี้ได้อ่านบทความในผู้จัดการออนไลน์ เรื่อง “กฎแห่งกรรม: ตายยกโคตร” ผมเห็นว่า เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับเรื่อง “กรรม” ของศาสนาพุทธ

ที่ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีก็คือ “จะว่าผิดก็ไม่ผิด จะว่าถูกก็ไม่ถูก” มันทั้งถูกทั้งผิดปนกันไป

เรื่องนี้ คุณพงศ์ เมืองเพชร ได้เขียนลงในนิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 147 เดือนมีนาคม 2556 ก็เดือนนี้เอง แล้วผู้จัดการออนไลน์นำมาเผยแพร่ในโลกของอินเตอร์เน็ทอีกต่อหนึ่ง

เนื้อเรื่องเป็นดังนี้

เรื่องของบาปบุญคุณโทษเป็นเรื่องที่ผมกล้ายืนยันได้ว่ามีจริง คนทำดีก็ได้ดี คนทำชั่วก็ได้ชั่ว มีเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับลุงของผม ซึ่งผมอยากจะบอกว่า มันเป็นกฎแห่งกรรมของการกระทำชั่วที่ตามมาให้ผลทันตาในชาตินี้

พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ปู่กับย่ามีลูกชาย 2 คน คือ ลุงใหญ่กับพ่อ ลุงใหญ่เป็นคนที่ไม่เคยกลัวใคร ส่วนพ่อเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยชอบยุ่งกับใคร

สมัยที่ลุงใหญ่ยังเป็นวัยรุ่น ลุงเป็นคนเลือดร้อน ชอบมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งต่อยตีกับพวกวัยรุ่นด้วยกัน จนในที่สุดก็ต้องออกจากโรงเรียน

เมื่อไม่ได้เรียนหนังสือ ลุงก็ไปคบหากับพวกนักเลงอันธพาล ข่มขู่รีดไถไปทั่ว แถมยังกินเหล้า เล่นการพนัน

ปู่กับย่ากลุ้มใจมาก คอยว่ากล่าวอยู่เสมอ แต่ลุงก็ไม่สนใจ จนกระทั่งปู่กับย่าต้องยื่นคำขาดว่า ถ้าลุงไม่กลับเนื้อกลับตัว ก็ตัดพ่อตัดลูก ไม่ต้องอยู่ด้วยกันอีกต่อไป

แทนที่ลุงจะกลัว กลับหัวเราะ และเก็บข้าวของออกจากบ้านไป ปู่กับย่าได้แต่ยืนมองน้ำตาไหล

หลายปีที่ลุงจากไป พ่อได้ข่าวมาว่า ลุงไปเป็นมือปืนรับจ้างฆ่าคน ต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆ เพื่อหลบซ่อนตัว

วันหนึ่งลุงได้กลับมาบ้าน พร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ลุงบอกว่า เป็นภรรยา มาขอเงินปู่ แต่ปู่ไม่ให้

ลุงโมโหมาก ผลักปู่ล้มลง และรื้อค้นข้าวของจนกระจัดกระจาย ได้สร้อยทองหนักสองสลึงไปหนึ่งเส้นและเงินอีกนิดหน่อย

พอดีย่ากลับมาจากตลาด เห็นเข้าก็โวยวายจนลุงต้องรีบเผ่นหนี

ลุงกับเมียเอาเงินที่ได้ไปเล่นการพนันหวังต่อทุน แต่ก็เสียจนหมด ในที่สุดลุงก็หันมาเป็นพวกวิ่งราว กระชากสร้อย ซึ่งทำเงินได้มากทีเดียว

ลุงเอาเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่หาความสุข ส่วนเมียก็ติดการพนันงอมแงม ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชาย 2 ลูกสาว 1 คือ วิชิต วิเชียร และวิภา

อาจเป็นเพราะเสียงสาปแช่ง จากคนที่ลุงไปก่อกรรมทำเข็ญไว้ และสารพัดกรรมชั่วที่ลุงทำมา ทำให้ลูกแต่ละคนของลุงมีอันเป็นไปอย่างไม่น่าเชื่อ!!

เริ่มจาก “วิชิต” ลูกชายคนโต มีอาชีพขับรถรับจ้าง วิชิตแต่งงานกับ “ยุพา” แม่ค้าในตลาด มีลูกด้วยกัน 3 คน

เป็นลูกสาว 1 ลูกชาย 2 คือ วันเพ็ญ วันชัย และวันชาติ

“วันเพ็ญ” ลูกสาวคนโต เรียนจบแค่ ป.4 ก็ต้องออกจากโรงเรียนมาช่วยแม่ค้าขาย แต่แล้ววันเพ็ญก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ตอนนั้นเธออายุได้ 18 ปี กำลังมีหนุ่มๆ มาชอบ

วันหนึ่งเธอบ่นกับแม่ว่าขายของเหนื่อยมาก จะรีบเข้านอนก่อน แต่พอรุ่งเช้าเธอก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

“วันชัย” ลูกชายคนที่สองของวิชิต เป็นเด็กไม่ค่อยฉลาด แถมยังซนมาก แต่วิชิตกับยุพาก็รักวันชัยอย่างที่สุด เพราะทั้งคู่ได้สูญเสียลูกสาวคนโตไปแล้ว

วันชัยเรียนหนังสือได้แค่ ป.6 ก็ไม่อยากเรียน จึงออกมาช่วยแม่ที่ตลาด ผ่านไป 4-5 ปี วันชัยรู้สึกเบื่อ จึงขอพ่อกับแม่ว่า จะไปขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

พ่อเห็นว่า วันชัยโตพอจะรับผิดชอบตัวเองได้แล้วจึงอนุญาต และไปดาวน์รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ลูก

โดยไม่รู้เลยว่า มันจะกลายเป็นยานมรณะของลูก

วันชัยขับรถหาเงินได้ไม่นาน ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุ ขับรถชนท้ายรถบรรทุกอย่างจังจนเสียชีวิต

วิชิตกับยุพาแทบบ้า เมื่อต้องสูญเสียลูกคนที่สอง ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงทะเลาะตบตีกันทุกวัน จนยุพาต้องขอแยกทาง โดยหอบ “วันชาติ” ลูกคนชายคนเล็กไปด้วย

หลังแยกทางกับเมียไม่นาน วิชิตก็ล้มป่วย และไม่มีใครดูแลรักษา ในที่สุดวิชิตก็ตายตามลูกทั้งสองไป

มาดูเรื่องราวของ “วิเชียร” ลูกชายคนที่สองของลุงใหญ่กันบ้าง

ไม่น่าเชื่อว่าวิเชียรจะถอดแบบนิสัยใจคอและการดำเนินชีวิตมาจากผู้เป็นพ่อเป๊ะ เพราะวิเชียรเป็นคนกล้าบ้าบิ่น ไม่กลัวใคร

เรียนหนังสือจบแค่ ป.4 ก็หนีเรียน ไปเที่ยวเตร่กับเพื่อนๆ

แม้ลุงใหญ่จะดุด่าเฆี่ยนตี แต่วิเชียรก็ไม่กลัว ตรงกันข้ามเขากลับไปคบหากับพวกนักเลงอันธพาล ที่มีอาชีพข่มขู่ รีดไถ ลักเล็กขโมยน้อย ฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินของชาวบ้าน

แล้วจุดจบของวิเชียรคือ การถูกพวกเดียวกันแทงตาย เพราะแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว

ส่วน “วิภา” ลูกสาวคนสุดท้องของลุงใหญ่ เธอก็มีชีวิตไม่ต่างจากพวกพี่ๆ เท่าไหร่นัก ชีวิตของเธอเหมือนตายทั้งเป็น

เมื่ออายุ 15 เธอแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับ “ชัย” พ่อค้าขายของเร่ในตลาด จนตั้งท้อง เธอจึงแอบไปทำแท้ง เพราะกลัวว่าพ่อแม่จะรู้

ต่อมาเธอจึงแอบหนีไปกับอยู่กินกับชัยที่กรุงเทพฯ มีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชาย 1 ลูกสาว 2

เธอกับชัยช่วยกันทำมาหากินจนพอมีเงินเก็บ เธอจึงเอาเงินไปเปิดร้านขายอาหารในห้างสรรพสินค้า

แรกๆ กิจการก็ไปได้ดี แต่ด้วยความโลภมาก อยากรวยเร็วๆ เธอจึงกู้เงินเพื่อขยายไปเปิดที่อื่นๆ อีก สุดท้ายกิจการทั้งหมดก็ขาดทุนย่อยยับ เธอต้องกลายเป็นหนี้ธนาคารนับล้านบาท

วิภาเสียใจอย่างหนักจนกลายเป็นโรคประสาทอ่อนๆ ขณะที่ “อาร์ต” ลูกชายคนเดียวซึ่งครอบครัวหวังจะได้พึ่งนั้น ก็แย่หนัก

ทั้งเกเร ไม่เรียนหนังสือ กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดพนันบอล และลักเล็กขโมยน้อย

ทั้งหมดที่ผมเล่ามานี้ เป็นกรรมร้ายแรงที่ลูกทั้ง 3 คนของลุงใหญ่ได้รับ แถมยังตกไปถึงหลานๆ ด้วย

ส่วนตัวลุงใหญ่เองนั้น ในบั้นปลายชีวิตก็กลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยโรคเรื้อรัง ทั้งความดัน เบาหวาน จนถูกตัดขาไปข้างหนึ่ง

ตาก็เป็นต้อหินมองไม่เห็น เมียก็ทิ้งไปมีสามีใหม่ ปล่อยให้แกอยู่ตามลำพังด้วยความยากลำบากแสนสาหัส

จนที่สุดแกก็ต้องลาโลกไปด้วยวัยเพียง 60 กว่าๆ

พ่อผมบอกว่า เคยไปเยี่ยมลุงใหญ่ก่อนที่แกจะตายไม่กี่วัน แกบอกกับพ่อว่า

“ชาตินี้กูทำกรรมมามาก ทำให้พ่อแม่เสียใจ แล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆ อีก ครอบครัวกู ลูกกู จึงฉิบหาย กูคงชดใช้กรรมในชาตินี้ไม่หมด”

ผมเชื่อว่า นรกมีจริง และป่านนี้..ผมไม่รู้ว่าลุงใหญ่ไปชดใช้กรรมอยู่ในนรกขุมไหน แต่ถ้าเรื่องของลุงใหญ่เป็นอุทาหรณ์สอนใจใครบางคนได้ ความดีที่เกิดขึ้นนี้ ผมขออุทิศให้ลุงใหญ่ทั้งหมดครับ

ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านที่มีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม เขียนเล่ามาเป็นธรรมทานในการเตือนสติแก่เพื่อนร่วมโลกให้ตระหนักถึงบาปบุญคุณโทษ และตั้งอยู่ในความดีงามตลอดไป


เรื่องนี้ สันนิษฐานว่า คงจะเป็นเรื่องจริง เพราะ คนในครอบครัวนำออกมาเล่าสู่กันฟังเอง และก็น่าจะเป็นผลของกรรมจริงๆ ที่ลุงใหญ่ทำกรรมไว้มาก กรรมจึงเกิดกับลุงใหญ่อย่างนั้น

แต่ประเด็นที่ควรตั้งข้อสงสัยก็คือ พ่อทำกรรมไว้ ทำไมผลกรรมจึงไปออกกับลูก และปู่ทำกรรมไว้ ทำไมผลกรรมจึงไปออกกับหลาน

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ขัดกับคำสอนของพระพุทธองค์เกี่ยวกับเรื่องกรรม

ขอยกตัวอย่างจาก อภิณหปัจจเวกขณ์ ๕ ก็แล้วกัน  เพราะ อยู่ในบทสวดมนต์ เราจะได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ

ข้อที่สตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม คฤหัสถ์ก็ตาม บรรพชิตก็ตาม ควรพิจารณาเนืองๆ

๑. ชราธัมมตา  ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้

๒. พยาธิธัมมตา  ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา ไมล่วงพ้นความเจ็บป่วยไปได้

๓. มรณธัมมตา ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้

๔. ปิยวินาภาวตา ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เราจักต้องมีความพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น

๕. กัมมัสสกตา ควรพิจารณาเนืองๆ ว่า เรามีกรรมเป็นของตน เราทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักต้องเป็นทายาทของกรรมนั้น

ข้อให้ดูตัวอักษรสีแดงที่เน้นไว้ พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ชัดเจนว่า “เรามีกรรมเป็นของตน เราทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักต้องเป็นทายาทของกรรมนั้น

ดังนั้น ใครทำกรรมใดไว้ คนผู้นั้น ก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น 

ทำกรรมดี ก็ได้ผลดีตอบแทน  ทำกรรมชั่ว ก็ต้องได้ผลชั่วตอบแทน  ลุงใหญ่ทำกรรม ลุงใหญ่ก็ต้องรับกรรม ไม่ใช่ลูก หรือหลานจะต้องรับกรรมนั้น

แล้วทำไมจึงเกิดเหตุการณ์อย่างในเรื่องที่เล่าขึ้นมาได้ 

ในเรื่องนี้ คุณลุงการุณย์ บุญมานุชเคยสอนให้ฟังบ่อยๆ การสอนของคุณลุงก็คือ เล่าให้ฟัง

คุณลุงเคยบอกว่า คนที่มีธาตุธรรมคล้ายกัน ก็จะไปอยู่ด้วยกัน  เอาง่ายๆ พวกบ้าบอล ก็จะไปดูบอลด้วยกัน  พวกบ้าตะกร้อ ก็จะไปดูตะกร้อด้วยกัน 

พวกคอเหล้าก็จะไปดื่มเหล้าด้วยกัน  พวกคอเบียร์ก็จะไปดื่มเบียร์ด้วยกัน

ถ้าเข้ามาทางศาสนาก็จะพิจารณาง่ายขึ้น  พวกยุบหนอพองหนอก็จะไปทางยุบหนอพองหนอด้วย  พวกพุทโธก็ไปทางพุทโธด้วยกัน

ในกรณีของลุงใหญ่นั้น กรรมของท่านก็เป็นของท่าน  แต่การที่ท่านเป็นคนอย่างนั้น ภรรยาเป็นคนอย่างนั้น  ลูกและหลานที่มาเกิด และมาอยู่ด้วยก็เป็นคนอย่างนั้น

ทั้งหมดต่างสร้างกรรมไม่ดีมาคล้ายๆ กัน จึงมาเกิดเป็นญาติกัน  ต่างคนก็ต่างรับกรรมของตน ไม่ใช่ว่า รับกรรมของปู่ หรือของพ่อ

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ20 มกราคม 2558 เวลา 06:39

    ผมชอบอ่าบล็อคของดอกเตอร์ก็แสดงว่า ผมเคยมีธาตุธรรมคล้ายดอกเตอร์ใช่หรือไม่ครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่รู้...

    มันเอามาตรฐานจากการอ่านบล็อกไม่ได้ ถ้ามาเป็นวิทยากรด้วยกัน อย่างนั้นอาจจะเป็นไปได้

    คนอ่านบล็อกผมนี่ บางทีมันอ่านเพราะต้องการมาด่าผมก็มี

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ20 มกราคม 2558 เวลา 10:13

    คำตอบของคุณลุงการุณย์ดีมากครับ. ถูกต้องด้วย

    ตอบลบ