บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ศพไม่เผา จะได้เกิดหรือไม่


มีคนเข้าไปตั้งกระทู้ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ที่น่าสนใจ และควรนำมาวิพากษ์วิจารณ์กัน กระทู้นั้นชื่อ “ไม่ได้จัดงานศพหรือเผาศพให้สามี สามีจะไปเกิดไหมค่ะ

เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้

คือว่า ดิฉันอายุแค่ 25 ปีแต่มีสามีอายุ 69 ปี

พ่อกับแม่ดิฉันก็ไม่ชอบ แถมสามีกับญาติทางพ่อแม่ดิฉัน ก็ไม่ถูกกันเพราะผู้ใหญ่ท่านคิดว่าดิฉันโดนสามีใส่ของ ทำให้รักทำให้หลง จึงเกียดเขา

พอสามีป่วยเข้า รพ ดิฉันไม่มีเงินติดตัวเลย แถมสามีดิฉันก็ไม่มีหาญาติพี่น้องทางไหน

ถ้าฉันจะรับภาระในการจัดงานศพให้เขาก็คงไม่ไหว  ดิฉันจึงทำตามคำแนะนำของพยาบาลคือ ไปอยู่กับพ่อกับแม่ 

แล้วทางมูลนิธิเขาจะจัดการให้เองไม่ต้องเป็นห่วงแต่ฉันเป็นห่วงอยู่ว่า เขาไม่มีเอกสารอะไรเลยชื่อนามสกุลก็ไม่มี แล้วมูลนิธิจะทำบุญให้เขาได้หรือค่ะ

เราลองมาดูความคิดเห็นของพวกห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์กันก่อนว่า จะมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรกันบ้าง

ความคิดเห็นที่ 4

ขออภัยนะครับ คคห. ของผมที่แสดงไว้อาจจะฟังดูรุนแรง

พิธีศพ คงไม่ใช่เรื่องสำคัญครับ เพราะหากคุณเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด สัตว์ต่างๆ ที่มีวิญญาณ พอตายแล้ว ก็ยังคงต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมีการทำพิธีกรรมหรือไม่ครับ

กรณีของพวกสัตว์ปีก สัตว์น้ำ สัตว์เลื้อยคลาน ไม่มีการทำพิธีศพ แต่ก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดไปตามกรรมไม่ต่างกับคนครับ

ส่วนหากฝากให้มูลนิธิทำพิธีกรรม เขาก็คงจะทำพิธีกรรมให้รวมกับผู้เสียชีวิตรายอื่น หากเป็นศพทีระบุชื่อไม่ได้ ก็ยังเข้าร่วมพิธีได้ แต่จะไม่มีการระบุชื่อเท่านั้นเอง (ว่าแต่ตอนเข้า รพ. หากไม่มีเอกสารส่วนตัวหรือญาติไปแสดงหลักฐานระบุชื่อผู้ป่วย ทาง รพ. เขารับเข้าพักรักษาด้วยหรือครับ?)

ความคิดเห็นที่ 5

ตายแล้วต้องเกิดแน่นอนครับถ้ายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์ งานศพจะจัดหรือจะเผาจะฝังยังไงไม่เกี่ยว

ไม่อย่างงั้นอย่างทหารที่ตายในป่าแล้วไม่ได้จัดงานศพก็คงไม่ต้องเกิดสิครับ ส่วนจะเกิดเป็นคนรึเปล่านี่ก็อีกเรื่องนึงครับ


ความคิดเห็นที่ 13

พิธีศพไม่เกี่ยวกับไปเกิดหรือไม่ไปเกิดหรอกครับ แค่กายเนื้อ ต้องดูว่าเสียชีวิตขณะจิตเป็นอย่างไร ผ่องใส เศร้าหมอง ฯลฯ


ความคิดเห็นข้างบนนั้น เป็นความคิดเห็นที่อ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนา จำมา แล้วเอามาตอบ ไม่ได้มีประสบการณ์ตรงกับเหตุการณ์เหล่านี้

ความคิดเห็นดังกล่าวก็เป็นความจริง  คือ คนตายแล้วต้องเกิดแน่นอน  ไม่ว่าจะเผาร่างกายหรือไม่  แต่ปัญหาปลีกย่อยที่สำคัญ และคนที่ให้ความคิดเห็นดังกล่าวไม่รู้เรื่องก็คือ  “จะไปเกิดเมื่อไหร่” เท่านั้น

ลักษณะของคำถามก็คล้ายๆ กับประเพณีของชาวจีนอย่างหนึ่งคือ เอาศพไปไว้ที่ฮวงซุ้ย  ถึงรอบเช็งเม้ง ตรุษจีนลูกหลานก็จะไปกราบไหว้ พร้อมกับเอาของไปเซ่นไหว้

คนเมื่อตายไปแล้ว  ถ้าไม่มีการทำพิธีเผาศพ  ใจ-จิต-วิญญาณของคนตาย จะเป็นห่วงร่างของเขา แล้วจะไม่ไปไหน จะวนเวียนอยู่กับร่างนั้น   จนกว่าร่างจะสูญสลายไปแล้ว  จึงจะไปเกิดได้

พูดง่ายๆ ก็คือ  ถ้าใจ-จิต-วิญญาณของคนตาย ยังห่วงร่างอยู่ ก็ยังไม่ไปเกิด เมื่อใจ-จิต-วิญญาณของคนตายหมดห่วงจากร่างแล้ว จึงจะไปเกิดได้

กรณีที่เขียนไปด้านบนนั้น พบโดยทั่วไป  พบมาหลายกรณีด้วย

อย่างไรก็ดี  ผมยังไม่เคยศึกษาในกรณีดังนี้คือ  สมมุติว่า คนนั้นเป็นคนที่มีกรรมหนักมาก เช่น พวกฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพี่ ฆ่าน้อง ทีเดียวทั้งครอบครัว อย่างที่เป็นข่าว 

ในกรณีนี้ ถ้าตายแล้วไม่เผา จะมีโอกาสได้ไปนรกทันทีทันใดหรือไม่

ต่อไปมาดูความคิดเห็นที่สมองหมา ปัญญาควายแต่คนเขียนนึกว่า “ฉลาด” กันบ้าง

ความคิดเห็นที่ 14

ไม่มีใครรู้ครับ

ท่านที่นับถือพระเจ้า เชื่อว่า ตายแล้ว ไปรอพระเจ้าตัดสินในวันสิ้นโลก ท่านเหล่านั้น ไม่เชื่อเรื่องเกิดใหม่

บางศาสนาเชื่อว่าตายแล้ว ถ้าทำกรรมดีก็ขึ้นสวรรค์ เช่นความบรรยายในมหาภารตะยุทธ์

ดังนั้น ชาวพุทธก็จะเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ไม่งั้น ก็จะไม่สอดคล้องกับเรื่องนิพพาน

แต่เรื่องจริงไม่มีใครรู้ ให้เชื่อไว้ก่อนว่า ตายแล้ว ถ้ามีวิญญาณจริง ก็ต้องไปที่ดีๆ แน่ เพราะไม่มีใครกลับมาเลย


ความคิดเห็นที่ 15

ทำใจให้สบายครับ การจัดพิธีศพ หรืองานศพเป็นแต่เพียงพิธีกรรมของแต่ละประเทศ ไม่ได้เกี่ยวกับการเกิดหรือไม่เกิด ไม่เกี่ยวแม้กระทั่งศาสนาด้วยซ้ำไป

ความคิดเห็นที่ 14, 15 นั้น  เป็นพวกที่ศึกษาทางวิชาการมาก  แล้วก็มาอนุมานตามแบบวิชาการ 

พวกนี้ มันเป็นพวกบ้าวิชาการ  ถือว่าเป็นพวกสมองหมา ปัญญาควายแบบหนึ่ง  ในทางศาสนานั้น ใช้ความคิดแบบนี้ไม่ได้

ในกรณีที่เรานับถือศาสนาพุทธ  เราก็ต้องมีความเชื่อมั่นอยู่ว่า “ศาสนาพุทธถูกต้องที่สุด”  ศาสนาอื่นผิดทั้งหมด

จะไปคิดหาเอาส่วนที่เหมือนกัน หรือสอดคล้องกันมาเป็นความรู้ใหม่ไม่ได้

ในกรณีที่เจ้าของกระทู้เป็นห่วงเรื่องการทำบุญให้สามี  ก็ควรไปอ่านที่นี่ http://thawaiahan.blogspot.com/

-------------------------
เขียนโดย ดร. มนัส โกมลฑา Ph.D. (สหวิทยาการ)
www.manaskomoltha.net
Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/manas4299/
Line ID : manas4299
Youtube: https://www.youtube.com/user/mommeam4299/
โทรศัพท์ : 083-4616989

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น